by
วันที่ 30 พ.ค. 2560 • อัปเดตล่าสุดเมื่อ: วันที่ 26 ธ.ค. 2560
    ทำไมข้อมูลงบการเงินบนเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่ตรงกับบน Jitta Factsheet

    ข้อมูลงบการเงินที่ Jitta ได้รับมาจาก S&P Global Market Intelligence นั้นจะคำนวณกันคนละแบบกับ SET กล่าวคือ ค่าบางอย่างเช่น EPS ทาง S&P Global Market Intelligence จะคำนวณจาก continued operation อย่างเดียว ในขณะที่ SET จะคิดจากทั้ง continued และ discontinued operation นอกจากนี้ยังมีเรื่องของระยะเวลาของการคำนวณ เช่น Jitta จะคำนวณค่า P/E ของงบแบบ Fiscal Year (ปีงบประมาณ) ส่วน SET จะคำนวณเป็น Trailing Twelve Months คือคำนวณย้อนหลังไป 12 เดือน

    ควากแตกต่างในการคำนวณหลักๆ ที่เราพบ มีดังนี้

    1. Revenue ของหุ้นกลุ่มประกันภัย SET จะคำนวณรายได้จากเบี้ยประกันภัยที่ถือเป็นรายได้สุทธิ + รายได้จากการลงทุนสุทธิ + รายได้อื่นๆ (https://www.set.or.th/set/companyfinance.do?type=income&symbol=TIP&language=th&country=TH) ส่วน Jitta จะคำนวณจากเบี้ยประกันภัยที่ถือเป็นรายได้สุทธิ + รายได้จากการลงทุนสุทธิ + รายได้อื่นๆ + ค่าจ้างและค่าบำเหน็จ + กำไรจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุน

    2. ROE SET จะคำนวณโดยนำ net income หารด้วยส่วนของผู้ถือหุ้นเฉลี่ยของปีปัจจุบันกับปีก่อนหน้า ในขณะที่ Jitta ใช้ net income หารด้วยส่วนของผู้ถือหุ้น

    3. ROA SET คำนวณโดยใช้รายได้ก่อนหักภาษีเงินได้หารด้วย asset เฉลี่ยของปีปัจจุบันกับปีก่อนหน้า ส่วน Jitta ใช้ net income หารด้วย asset ปีปัจจุบัน

    4. Operating margin คิดเหมือนกันคือใช้ net income หารด้วย revenue แต่เนื่องจากวิธีคิด revenue ไม่เหมือนกันตามข้อ 1. ทำให้ operating margin ออกมาไม่เท่ากัน

    5. Net income ของกองทุน Net income ที่แสดงใน Jitta ของกองทุนจะตรงกับส่วน “การเพิ่มขึ้น (ลดลง) ในสินทรัพย์สุทธิจากการดำเนินงาน” ของ Balance Sheet บน SET ซึ่งแสดงถึงมูลค่าที่เพิ่มขึ้นของทรัพย์สินที่กองทุนมีอยู่ทั้งหมด https://www.set.or.th/set/companyfinance.do?type=income&symbol=QHHR&language=th&country=TH

    6. หนี้สิน ในด้านงบของ PTT ที่ไม่ตรงกับ SET นั้น เนื่องจากงบที่แสดงใน SET จะนำ “ส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุม (NON-CONTROLLING INTERESTS)” ไว้ในส่วนของผู้ถือหุ้น ในงบแสดงฐานะการเงิน แต่ของ S&P Global Market Intelligence จะแสดงไว้ในส่วนหนี้สินทำให้หนี้สินรวมใน S&P Global Market Intelligence มากกว่าใน SET ซึ่งการเอาไปไว้คนละส่วนกันเกิดจากแนวการทำบัญชีที่ต่างกัน ทำให้ได้ผลรวมไม่เท่ากัน

    7. Revenue เวลาใช้ตัวเลข Revenue นั้น Jitta จะใช้ตัวเลขรายได้จากยอดขายหรือรายได้หลักของบริษัท ในขณะที่ SET จะใช้รายได้รวม เหตุที่ Jitta ใช้รายได้หลักแทนรายได้รวมนั้น ก็เพื่อให้เห็นภาพของรายได้ได้ชัดเจนขึ้นว่า ธุรกิจหลักดีขึ้นหรือแย่ลง จะได้ไม่ทำให้นักลงทุนผิดพลาด ในกรณีที่บริษัทมีรายได้ที่ผิดปรกติเข้ามา

    ซึ่งการคิด Jitta Score ก็คิดมาจากรายได้หลักของบริษัทมากกว่ารายได้รวม เพื่อสะท้อนให้เห็นว่า สินค้าและบริการหลักของบริษัทยังเป็นที่ต้องการของตลาด ยังขายได้ดีเหมือนเดิมอยู่หรือไม่ หรือว่าสินค้าขึ้นราคาตามเงินเฟ้อได้หรือเปล่า หรือ บริษัทมีความสามารถในการสร้างรายได้จากสินค้าและบริหารใหม่ๆ ได้หรือไม่ ก็จะทำให้สมเหตุสมผลกว่า การนำรายได้อื่นๆ หรือ ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม (ที่อาจจะไม่แน่นอนในแต่ละปี) มาร่วมคำนวณด้วย