บทความ แนวคิด และกลยุทธ์การลงทุน
4 ข้อคิด ลงทุนฝ่าวิกฤตพิชิต Covid-19
จบไปแล้ว กับ LIVE “ลงทุนฝ่าวิกฤตพิชิต COVID-19” หวังว่านักลงทุนทุกท่านจะได้ข้อคิด และความรู้กลับไป เพื่อไปใช้ประกอบการตัดสินใจ ในการลงทุนในช่วงนี้
โดยความรู้ ข้อคิด จากประสบการณ์ตรงของผู้เชี่ยวชาญ 3 ท่านนั้น แน่นมากจริงๆ เพราะเคยผ่านมรสุมวิกฤตหนักๆ มาแล้ว แต่พอร์ตก็ยังเติบโต และยังคงเติบโตต่อไปเรื่อยๆ ดังนั้น ทีมงานเลยสรุปประเด็นสำคัญๆ ทั้งหมด 4 ข้อด้วยกัน
1. อนาคต ไม่มีใครคาดการณ์ได้
วิกฤตครั้งนี้ไม่มีใครคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดขึ้น และไม่มีใครเดาได้ว่าตอนนี้เป็นจุดเลวร้ายที่สุดแล้วหรือยัง
แบงก์ชาติได้ประเมินเศรษฐกิจไทยว่า ปีนี้ GDP จะติดลบถึง 5.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน สาเหตุเป็นเพราะประเทศไทยพึ่งพาการท่องเที่ยวและการส่งออกเป็นส่วนใหญ่ กำลังซื้อภายในประเทศถดถอยลง เนื่องจากอัตราจ้างงานที่น้อยลง ของค้าขายไม่ได้
ตอนนี้เหมือนเรากำลังอยู่ในท่ามกลางมรสุม ที่ยังไม่รู้ว่าอนาคตหรือข้างหน้าจะเป็นอย่างไรบ้าง
แต่ถึงแม้ว่าไม่มีโรคระบาด เราก็ไม่สามารถมองเห็นภาพ 100% ได้
“เดี๋ยว Covid มันก็ผ่านไป ทำยังไงให้เราไม่ล้มหายตายจากไปด้วย นี่สำคัญกว่า”
ดร. ศิวัสน์ เหลืองสมบูรณ์ รองกรรมการผู้จัดการ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
การลงทุนเปรียบได้กับการหลับตาข้างนึงแล้วขับรถ ต้องมีความระมัดระวัง มีสติอยู่ตลอดเวลา เพราะเราไม่รู้ว่าเหตุการณ์ที่ควบคุมไม่ได้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่
แม้ว่าเราจะมั่นใจกับการลงทุนแค่ไหนก็ควร “เผื่อใจ” ไว้บ้าง
เราไม่รู้ว่าโชคจะมาหาเราตอนไหน เพราะฉะนั้น วิธีที่ดีสุดตอนนี้ คือ ศึกษาหาความรู้ ควบคุมความเสี่ยงให้เพียงพอ อย่าหยุด อย่ายอมแพ้ เมื่อไหร่ที่โชคมาแล้ว สิ่งที่คุณหวังก็จะสัมฤทธิ์ผล
2. อย่าใช้อารมณ์ ตัดสินใจด้วยความรู้ ลงทุนด้วยสติ
นักลงทุนทั้งหลายอาจจะผ่านวิกฤตต่างๆ มามากมาย อย่างเช่น คุณปู่วอร์เรน บัฟเฟตต์ ที่ลงทุนมานานกว่า 60 ปี ก็เคยเลือกลงทุนถูก ลงทุนผิด เช่นเดียวกัน แต่สิ่งที่ได้กลับไปทุกครั้ง ก็คือ “ประสบการณ์”
ลองศึกษาว่าเขาผ่านมาได้อย่างไร มีมุมมองอย่างไรบ้างในช่วงวิกฤต และเขาค้นหาโอกาสในการลงทุนช่วงนี้ได้อย่างไร
ความเสี่ยงเป็นสิ่งเดียวที่เราไม่มีทางรู้
คุณปู่วอร์เรน บัฟเฟตต์
ในช่วงวิกฤต เราควรทำให้จิตใจสงบ ไม่วิตกกังวล และเตรียมตัวให้พร้อม ลงทุนแล้วได้กำไร ไม่ได้บอกว่าเราถูก ลงทุนแล้วขาดทุนก็ไม่ได้หมายความว่าเราผิด…
การลงทุนนั้นเป็นเกมระยะยาว (Investment is a long-term game) เราลงทุนไม่ได้หวังกำไรในวันพรุ่งนี้ แต่เราหวังสร้างผลตอบแทนใน 1 ปี 5 ปี 10 ปีข้างหน้า อย่าใช้อารมณ์ในการลงทุน เพียงเพราะเห็นว่าตลาดหุ้นตก จึงเทขายทุกหุ้นทุกตัวในพอร์ต แล้วถือเงินสด
สิ่งที่ไม่เคยหายไปจากตลาดหุ้น คือ ความโลภและความกลัว เมื่อมีข่าวร้ายเกิดขึ้น นักลงทุนจะเกิดความวิตก และขายหุ้น พอเห็นตลาดหุ้นตกอีก นักลงทุนก็ยิ่งขายอีก จนตลาดยิ่งแย่เข้าไปใหญ่
ตลาดหุ้นมีวัฏจักรของมันคือ จะมีทั้งช่วงที่ตลาดหุ้นขึ้น และตลาดหุ้นตก แต่เราก็รู้อีกเช่นกันว่าตลาดหุ้นจะมีขาขึ้นมากกว่าขาลง ดังนั้นแล้ว หากใครลงทุนอยู่แล้ว ให้ถือลงทุนต่อไป
3. อย่าเทหมดหน้าตัก จะหมดตัวไม่รู้ตัว
สิ่งที่ขาดไม่ได้เมื่ออยู่ในช่วงวิกฤตมีอยู่ 3 อย่าง
1. เงินสดเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน
2.สินทรัพย์ที่สามารถสร้างรายได้เรื่อยๆ ให้กับคุณ
3. สินทรัพย์ที่มีอนาคต
โอกาสในตลาดหุ้นมีอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องรีบ ต้องรู้จักทั้งโอกาสและความเสี่ยง เพราะมันมีทั้งโอกาสที่ความเสี่ยงต่ำและความเสี่ยงสูง นักลงทุนทั่วไปอาจไม่ค่อยคิดถึงเรื่องความเสี่ยง คิดแค่ว่าอยากได้กำไรเยอะๆ แต่สิ่งนั้นก็จะเป็นภัยแก่ตนเอง ทำให้หมดตัวได้ในที่สุด
ถ้ามีโอกาสลงทุนแล้ว 99%รวยขึ้นเท่าตัว กับ 1% ที่จะต้องหมดตัว ผมเลือกอยู่เฉยๆ
คุณปู่วอร์เรน บัฟเฟตต์
เป็นเพราะว่า ถ้าคุณรวยขึ้นเท่าตัว การใช้ชีวิตของคุณยังเหมือนเดิม แต่ถ้าคุณหมดตัว ชีวิตคุณเปลี่ยนไปแน่นอน
การลงทุนไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว อยู่ที่ว่าคุณจะมองภาพออกหรือไม่ คาดการณ์ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร หุ้นเป็นสินทรัพย์ที่ทุกคนเห็นราคาตลาดเท่ากันทั้งหมด แตกต่างกันที่แต่ละบุคคลจะมองเห็นมูลค่าของสินทรัพย์นั้นอย่างไร
Valuation ใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ ให้เลือกลงทุนในบริษัทที่แม้ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด ก็ยังสามารถสร้างรายได้ ควบคุมหนี้สิน มีสภาพคล่องสูง และสามารถกลับมาได้ภายใน 1 ถึง 2 ปี
ไม่เพียงเท่านั้น คุณยังต้องดูมุมมองและความสามารถของผู้บริหาร โอกาสทางธุรกิจของบริษัทประกอบกันด้วย
ดังนั้น แบ่งเงินออกเป็นหลายๆ ส่วน เลือกลงทุนในหุ้นที่มีคุณภาพดี กระจายความเสี่ยงไปยังหุ้นหลายๆ ตัว
ตลาดหุ้นขึ้นลง ก็เหมือนฝนตกแดดออก ถ้าทำใจรับตรงนี้ก็ไม่ได้ ก็ไม่ควรเริ่มลงทุนตั้งแต่ต้น สุดท้ายแล้ววิกฤตจะผ่านไป ถ้าคุณไม่ถูกบังคับให้ออกจากเกม คุณก็จะกลับมาได้เสมอ
ความรู้เป็นเรื่องสำคัญที่นักลงทุนควรศึกษาอยู่ตลอดเวลา แม้ในยามหุ้นตก นักลงทุนก็ต้องไม่นิ่งเฉย
เวลาเกิดวิกฤตแล้วคุณเพิกเฉยกับมัน ก็ขาดทุนจนหมดตัวได้อยู่ดี
คุณตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง Jitta
ถามตัวคุณเองว่า ยอมทุ่มเท ทำการบ้านให้หนัก เพื่อดูแลเงินของคุณหรือเปล่า”
4. รีวิวพอร์ตตัวเอง ดูธุรกิจที่ได้ประโยชน์ เอาเงินไปไว้ในทรัพย์สินที่เติบโต
ไม่มีต้นไม้ต้นไหน อยู่รอดได้โดยไม่ได้รับการรดน้ำพรวนดิน กลับมาทบทวนพอร์ตหุ้นอย่างสม่ำเสมอ เหรียญมักมี 2 ด้านเสมอ มีคนได้เปรียบ ก็ต้องมีคนเสียเปรียบ
ตลาดหุ้นตก ไม่ได้แปลว่าหุ้นทุกตัวต้องตกตาม มีวิกฤตโรคระบาด ไม่ได้หมายความว่าทุกธุรกิจจะได้รับผลกระทบ ช่วงนี้ให้สังเกตงบการเงินบริษัทหลังจากงบออก ว่าธุรกิจยังสามารถดำเนินธุรกิจได้ตามปกติหรือไม่ กระแสเงินสดยังดีอยู่หรือเปล่า บริษัทที่ไม่ได้รับผลกระทบต่อวิกฤต
เมื่อช่วงวิกฤตผ่านพ้นไป ก็จะกลับมาเติบโตได้อย่างรวดเร็ว เชื่อว่านักลงทุนมากประสบการณ์ ถ้าอ่านหนังสือพิมพ์ ไม่ได้อ่านแค่ข่าวหุ้น แต่จะไปอ่านข่าวเศรษฐกิจ ธุรกิจ เทคโนโลยี ประกอบด้วย มองหาโอกาส หรือสิ่งที่จะเข้ามาเอื้อกับธุรกิจที่เราถืออย่างไร สไตล์การบริหารงานของบริษัทที่คุณถือ ล้าสมัยไปไหม เทคโนโลยี หรือนวัตกรรมใหม่ๆ สามารถเข้ามาแทนที่ธุรกิจของคุณได้หรือเปล่า
หุ้นเป็นการลงทุนระยะยาวที่ต้องการความเอาใจใส่ เราต้องเลือกหุ้นที่มันรอด
คุณชาย มโนภาส นายกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย)
หนี้น้อย สภาพคล่องดี ราคาลงมาเยอะ แต่ก็ต้องระวังความเสี่ยงเป็นเรื่องแรก
เพราะตลาดหุ้นมันสามารถไร้สาระได้ยาวนาน
ยอมรับแล้วเดินไปข้างหน้า ปรับพอร์ตตัวเองเรื่อยๆ ตามข้อมูลใหม่ที่ได้รับ
สุดท้ายนี้ เดี๋ยววิกฤตก็ผ่านพ้นไป วิกฤตจะคลายได้เร็ว ถ้าโรคระบาดรักษาได้อย่างรวดเร็ว
ศึกษาหาความรู้ด้านการลงทุน ทำอย่างไรจึงจะได้กำไรชนะตลาดได้ www.passiveway.com
ค้นหาหุ้นที่ใช่สำหรับคุณ มองหาโอกาสลงทุนทั่วโลกได้ที่ www.jitta.com
หรือมองหาบริการบริหารจัดการเงินลงทุนให้คุณ ที่เลือกลงทุนให้ธุรกิจที่ดี มีการกระจายความเสียงอย่างเหมาะสม อย่างเช่น กองทุนดัชนี SET50 หรือ jittawealth.com
นอกจากนั้น ดูแลตัวเองและครอบครัวให้ปลอดภัยทั้งกาย ทั้งใจ และธุรกิจการเงิน คุณไม่มีทางรู้ว่าครั้งนี้จะเป็น Perfect Storm หรือเปล่า เพียงแค่มีสติ หาแก่นแท้การลงทุนของคุณให้เจอ
Keep Calm and Stay Invested
ดูคลิปไลฟ์แบบเต็มๆ ดูได้ที่นี่