by Jitta
วันที่ 3 ส.ค. 2563 • อัปเดตล่าสุดเมื่อ: วันที่ 3 ส.ค. 2563
รีวิวหุ้น Salesforce.com สุดยอดระบบ CRM ระดับโลก

บริษัท Salesforce.com ก่อตั้งในปี 1999 โดยอดีตผู้บริหาร Oracle ได้แก่ Mark Benioff และกลุ่มเพื่อนอีกสามคน เพื่อให้บริการระบบ Software as a service (SaaS) ที่ดูแลระบบการขายของลูกค้าองค์กรเป็นหลัก

หลังจากนั้นได้เข้าตลาดหุ้นอเมริกาในปี 2004 ระดมทุนไปได้กว่า $110 ล้าน

บริการหลักๆ ของ Saleforce

ปัจจุบันบริษัทให้บริการหลักๆ ภายใต้แพลตฟอร์ม Customer 360 ที่ดูแลลูกค้าแบบครบวงจร ประกอบด้วย

  1. ระบบการขาย ช่วยให้ลูกค้าขายสินค้าได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีให้บริการตั้งแต่การเก็บข้อมูลของลูกค้า การมอนิเตอร์ลูกค้าที่สนใจ (Leads) การคาดการณ์ยอดขาย จนกระทั่งการใช้เทคโนโลยีเอไอเข้ามาวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก เช่น การแนะนำลูกค้าใหม่ให้กับทีมพนักงานการขาย
  2. ระบบบริการหลังการขาย ช่วยให้พนักงานสามารถติดต่อกับลูกค้าเพื่อช่วยเหลือได้ทุกช่องทางได้แก่ โทรศัพท์ อีเมล SMS รวมทั้งมีระบบกระจายงานเพื่อให้ทีมช่างเข้าไปช่วยลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว
  3. ระบบการตลาดและการค้าขาย ช่วยให้บริษัทสามารถวางแผนทางการตลาดและทำการตลาดส่วนบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นการติดต่อสื่อสารผ่านทางอีเมล มือถือ โซเชียล เว็บไซต์ นอกจากนั้นยังสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายของลูกค้าได้ตามแคมเปญของนักการตลาดอีกด้วย

จุดแข็งของ Salesforce.com คือการมีแพลตฟอร์มที่ครบวงจรและสามารถเชื่อมต่อเข้ากับระบบดั้งเดิมของลูกค้าได้ จึงช่วยให้ข้อมูลในองค์กรมีการเชื่อมต่อกันระหว่างการขาย การตลาด และส่วนการสนับสนุนลูกค้า และนำมาวิเคราะห์ด้วยเทคโนโลยี AI เพื่อช่วยสร้างรายได้เพิ่มขึ้น

Salesforce มีบริษัทคู่ค้าจำนวนมากที่มีโซลูชั่นมาเชื่อมต่อเข้ากับระบบ เช่น หลังจากปิดการขายได้แล้วสามารถเชื่อมต่อมาที่ระบบของ DocuSign เพื่อเซ็นสัญญาออนไลน์ และเชื่อมต่อเข้ากับระบบ SAP เพื่อบันทึกยอดขาย

บริษัทคู่ค้ายังรวมถึงบริษัทที่อยู่ในแต่ละประเทศที่ช่วยทั้งการตลาดและการขาย จึงทำให้ Salesforce บริหารจัดการต้นทุนได้ดีเพราะไม่ต้องการพนักงานจำนวนมากเพื่อมาขายสินค้า บริษัทเหล่านี้จะช่วยปิดการขายและติดตั้งระบบให้

ทั้งหมดนี้ทำให้ธุรกิจของ Salesforce มีความแข็งแกร่ง ลูกค้าใช้งานแล้วมีโอกาสย้ายไปคู่แข่งยาก (High Switching Cost) และบริษัทก็มีโอกาสเพิ่มอัตรารายได้ต่อลูกค้ารายเดิมสูง (Net Dollar Expansion) ด้วยบริการใหม่ๆ ที่ออกมาสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง

วิเคราะห์งบการเงินของ Saleforce

ในส่วนของข้อมูลการเงิน ผมใช้ Jitta ในการวิเคราะห์ดังนี้

  • รายได้ปี 2018* ทำได้ $10,540 ล้าน กำไร (Net Income) $360 ล้าน
  • รายได้ปี 2019 ทำได้ $13,282 ล้าน กำไร $1,110 ล้าน
  • รายได้ปี 2020 ทำได้ $17,098 ล้าน กำไร $126 ล้าน
  • รายได้ไตรมาสแรกของปี 2021 (จบเดือนเมษายน 2020) ทำได้ $4,870 ล้าน กำไร $99 ล้าน

(รอบปีจบวันที่ 31 มกราคมของทุกปี)

บริษัทมีอัตราการเติบโตยอดขายแบบทบต้นตั้งแต่ปี 2018 อยู่ที่ 27.37% ต่อปี เปรียบเทียบกับหุ้นขนาดกลางอย่าง DocuSign ที่มีอัตราการเติบโตที่ 36.68% แล้วถือว่าทางบริษัทมีการเติบโตที่ดีเลยทีเดียว

การบริหารจัดการกระแสเงินสดสุทธิยังทำให้เป็นบวกได้อย่างต่อเนื่องในช่วงห้าปีที่ผ่านมา โดยปีล่าสุดทำได้ถึง $1,476 ล้าน

จุดที่น่าสนใจของ Salesforce คือการเป็นผู้ชนะขาดในตลาด CRM ด้วยการมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 18.4% ทิ้งห่างคู่แข่งเบอร์สองอย่าง SAP ที่มีอยู่เพียง 5.3% และ Oracle ที่ 5.2% เท่านั้น

ผมยังเชื่อว่าตลาด CRM ยังมีโอกาสในการเติบโตหลังช่วงโควิด-19 อีกมาก ข้อมูลจากบริษัทวิจัยทางด้านไอทีชั้นนำอย่าง Gartner ยังระบุอีกด้วยว่าตลาดนี้จะมีขนาดใหญ่ถึงประมาณ $174,000 ล้านภายในปี 2024

ทุกวันนี้รายได้ของ Salesforce ยังน้อยกว่า $20,000 ล้านต่อปี ถ้าดูจากขนาดของตลาดแล้ว โอกาสการเติบโตยังมีอีกเยอะมาก

ในส่วนของราคาการหามูลค่าที่เหมาะสมสำหรับบริษัทที่เติบโตสูง คงต้องใช้หลักการหาแบบ Price per Sales มาคิด โดย Salesforce มีค่านี้อยู่เพียง 8.29 เท่า ในขณะที่หุ้นในกลุ่ม SaaS ตัวอื่นๆมีค่าสูงกว่า เช่น Docusign อยู่ที่ 37.64 เท่า และ Zoom อยู่ที่ 86.5 เท่า

ใครที่สนใจลงทุนหุ้นเทคโนโลยีเติบโตสูงอย่าง Salesforce ตอนนี้ Jitta Wealth เปิดให้บริการกองทุนสวนบุคคล Jitta Ranking – U.S. Tech ที่จะใช้เทคโนโลยี Jitta Ranking คัดกรองหุ้นเทคโนโลยีที่พื้นฐานดี เติบโตสูง และมูลค่าเหมาะสม น่าลงทุนที่สุดให้คุณ พร้อมปรับพอร์ตอัตโนมัติทุก 3 เดือน ลองดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/2D4Lqoy หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Jitta Wealth เพื่อเปิดบัญชีภายใน 15 นาที ที่นี่ครับ https://link.jittawealth.co/bvi