4 บริษัทวงการเทคโนโลยีไทย NETBAY, HUMAN, SICT และ IIG ทำธุรกิจอะไรกันบ้าง น่าลงทุนมากน้อยแค่ไหน และได้รับอานิสงส์จาก Covid-19 เหมือนหุ้นเทคต่างชาติบ้างหรือเปล่า มาดูกัน
NETBAY
- ผู้ให้บริการ Digital Platform ในการทำธุรกรรมข้อมูลการค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ ในรูปแบบ Software-as-a-Service (SaaS) บนระบบ Cloud ยกตัวอย่างเช่น การทำธุรกรรมนำเข้าส่งออกสินค้า การแลกเปลี่ยนข้อมูล การทำเอกสารต่างๆ ก็มาทำออนไลน์ผ่านระบบของ NETBAY
- รายได้จะคิดตามจำนวน transaction โดยธุรกิจหลักจะเป็น B2B และ B2G มากกว่า B2C
- รายได้ Q2 เท่ากับ 94.5 ล้านบาท -8.7% ชะลอตัวตามการนำเข้าส่งออกที่ลดลง (แต่ถ้าย้อนไปดูรายได้ 3 ปี ย้อนหลังระหว่างปี 2017-2019 เติบโตปีละประมาณ 14%)
- กำไรสุทธิ Q2 เท่ากับ 34 ล้านบาท -25.6% แต่มีรายการพิเศษค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ และบริจาคหุ่นยนต์ให้โรงพยาบาลเพื่อช่วยแพทย์และพยาบาลในช่วง COVID 6.6 ล้านบาท
- เพราะฉะนั้นกำไรปกติจะอยู่ที่ 41 ล้านบาท -14.4% ก็ยังลบเยอะอยู่ดี เพราะถ้าดูย้อนหลัง 3 ปี กำไรสุทธิเติบโต 27-28%
- สาเหตุที่รายได้ลดลงไม่เยอะ แต่กำไรกลับลงมากกว่า ก็เพราะว่า มี fix cost สูง เช่น ค่าพนักงาน ค่าเสื่อมราคา ค่าเช่า lease line ที่แม้ไม่มีงานก็ต้องจ่ายคงที่
- Jitta Score 7.4 สูงมากทีเดียว
- Jitta Factors และ Jitta Signs โดดเด่นมากทั้งในเรื่องของตัวเลขงบการเงินและผลตอบแทนผู้ถือหุ้น ตามที่ได้บอกไปก่อนหน้าว่ารายได้และกำไรเติบโตมาตลอด หนี้สินระยะยาวต่ำ SG&A ลดลง และไม่ได้มีการลงทุนขนาดใหญ่
- P/E 36.7 เท่า P/BV 16.2 เท่า
- ราคาแพงกว่า Jitta Line 144.7%
แนวโน้มในอนาคตของ NETBAY
น่าจะเริ่มฟื้นตัวหลังจากมีการคลายล็อกดาวน์ ธุรกรรมต่างๆ น่าจะมีเพิ่มมากขึ้น แต่เนื่องจากว่าตัวเลขประมาณการนำเข้าส่งออกทั้งปียังคงเติบโตติดลบอยู่ ก็อาจเป็นไปได้ว่าถึงแม้จะฟื้นตัวแต่รายได้และกำไรก็คงจะลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้วอยู่ดี
อย่างไรก็ตาม NETBAY มีความน่าติดตามในแง่ของการขยายธุรกิจเพิ่มเติมให้มากขึ้นในอนาคต เช่น ทำธุรกรรมด้านภาษี หรือว่าขยายออกไปทาง B2C ให้มากขึ้น ถ้าทำได้ดีก็จะเป็นตัวเร่งการเติบโตได้
HUMAN
- พัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อจำหน่ายและติดตั้งซอฟต์แวร์ระบบบริหารงานทรัพยากรบุคคล จัดทำเงินเดือนและจัดทำบัญชี มีซอฟต์แวร์เช่น Humatrix, Tiger Soft
- ลูกค้าของ HUMAN ก็เป็นที่รู้จักกันอย่างดี เช่น MK, MINT, S&P, BTS, DHL โดยรายได้คิดตามจำนวน users ที่ใช้บริการ
- รายได้ Q2 เท่ากับ 174 ล้านบาท +25.2% ที่บวกเยอะเพราะว่าซื้อกิจการ Tiger Soft เข้ามาเมื่อกรกฎาคม 2019 ทำให้รับรู้งบเต็มปี และสามารถขายสินค้า hardware อย่างเครื่องบันทึกเข้าออกงานที่ตรวจจับใบหน้าและวัดอุณหภูมิได้ด้วย (เหมาะกับไว้ตรวจวัดไข้ช่วง COVID)
- กำไรสุทธิ Q2 เท่ากับ 33.6 ล้านบาท -6.5% แต่มีรายการพิเศษตั้งค่าเผื่อหนี้สูญ ขาดทุนเงินลงทุนและอัตราแลกเปลี่ยน 7 ล้านบาท
- เพราะฉะนั้นกำไรปกติจะอยู่ที่ 40 ล้านบาท กลับมา +1.7%
- สาเหตุของการที่รายได้บวกเยอะ แต่กำไรบวกนิดเดียว เริ่มมาตั้งแต่อัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงหลัง และ SG&A ที่มากขึ้น หลังจากรวม Tiger Soft เข้ามา ทำให้ mix ของสินค้าเปลี่ยนไปและมีค่าเช่า ค่าขยายพื้นที่สำนักงานเพิ่มขึ้น
- Jitta Score 6.49 สูงมากเช่นกัน
- Jitta Factors ดูโดดเด่นในเรื่องของตัวเลขงบการเงิน รายได้และกำไรเติบโตสม่ำเสมอ หนี้สินระยะยาวต่ำ แต่ต้องระวังเรื่องค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้น ทำให้อัตรากำไรจากการดำเนินงานลดต่ำลง
- P/E 34.2 เท่า P/BV 4.2 เท่า
- ราคาแพงกว่า Jitta Line 84.83%
แนวโน้มในอนาคตของ HUMAN
Q3 เป็นต้นไปจะไม่มีการรับรู้เต็มปีของ Tiger Soft มาช่วยแล้ว และจากการที่หลายธุรกิจทั้งโรงแรม ร้านอาหารที่เป็นลูกค้าของ HUMAN มีการลดพนักงานลงก็จะทำให้รายได้ลดลงไปด้วย แต่ว่า HUMAN ก็ยังมีการพูดคุยกับลูกค้าใหม่หลายรายทั้ง ปตท. สหพัฒน์ ถ้าดีลสำเร็จก็จะมาช่วยเพิ่มรายได้ในอนาคตอีกมาก
SICT
- ธุรกิจต้นน้ำ ออกแบบและพัฒนาไมโครชิพ แล้วไปจ้างโรงงานผลิต เสร็จแล้วเอากลับมาขาย โดยเป็นการส่งออกไปต่างประเทศทั้งหมด
- ธุรกิจแบ่งเป็น 3 ประเภทหลักคือ Car Immobilizer (กุญแจสำรองรถยนต์) Animal ID (Tag ติดตามตัวและลงทะเบียนสัตว์) และ Access Control (ระบบเข้าออกอาคาร สถานที่ต่าง)
- รายได้ Q2 เท่ากับ 75 ล้านบาท +0.4% เพราะว่ามีการเลื่อนออเดอร์กุญแจรถยนต์ขึ้นมา Q1 จากความกังวลเรื่อง COVID ว่าจะส่งของไม่ได้ แต่ Q2 ก็มีออเดอร์ Animal ID เยอะจากลูกค้ารายใหญ่เจ้าหนึ่งด้วย ถ้ารวมรายได้ครึ่งปีแรกจะเติบโต 15.4%
- บริษัทมีออเดอร์ล่วงหน้าที่คาดว่าจะต้องส่งมอบภายใน Q2’2021 เท่ากับ 135 ล้านบาท ก็อาจจะมองว่าเป็น Backlog ได้อยู่เหมือนกัน
- กำไรสุทธิ Q2 เท่ากับ 10.8 ล้านบาท +315%
- สาเหตุที่รายได้ไม่เพิ่ม แต่กำไรเพิ่มหลายเท่าตัว เพราะว่าปีที่แล้วมีการตั้งค่าสินค้าเสื่อมสภาพ ตั้งสำรองผลประโยชน์พนักงานเกษียณ และค่าใช้จ่ายการเดินทางลดลงจากการไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศในการติดต่อลูกค้า และมีกำไรอัตราแลกเปลี่ยน
- P/E 33.7 เท่า
แนวโน้มในอนาคตของ SICT
ตัวธุรกิจดูมีความน่าสนใจ Animal ID มีแนวโน้มที่จะมีการใช้งานมากขึ้น เพื่อทำการติดตามเรื่องความปลอดภัยจากสัตว์ต่างๆ แต่ก็น่าสังเกตว่าบางทีออเดอร์มาไม่สม่ำเสมอ บางไตรมาสมาเยอะ อีกไตรมาสแผ่วลง ขึ้นอยู่กับออเดอร์ทีได้ ก็ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดและมองภาพรวมให้ออก
นอกจากนี้ยังมีตัวธุรกิจใหม่ใช้เทคโนโลยี NFC (Near Field Communication) ที่เรามักจะคุ้นๆ ว่ามีอยู่ในมือถือ เอาไว้สแกนตรวจสอบสินค้าปลอม ตรวจสอบคุณภาพน้ำ คุณภาพไวน์ เป็นต้น ก็จะเป็นอีกตัวเร่งหนึ่งถ้าสามารถขยายเป็นวงกว้างได้
IIG
- ดำเนินธุรกิจที่ปรึกษาด้านดิจิทัลและเทคโนโลยี ให้บริการออกแบบติดตั้งระบบ CRM กับ ERP โดยเป็นตัวแทนจำหน่ายให้กับ Software ระดับโลก คือ Salesforce (CRM) และ Oracle (ERP)
- เป็นธุรกิจ B2B ลูกค้าหลักเป็นลูกค้าองค์กร เช่น TMB, BAY, SIRI, เมืองไทยประกันชีวิต
- รายได้ Q2 เท่ากับ 124.2 ล้านบาท +30.3% เติบโตขึ้นทั้งการขายและให้เช่าใช้ทั้ง CRM และ ERP โดยมีลูกค้าใหม่เพิ่มต่อเนื่อง ยิ่งช่วง COVID กลับมีลูกค้าเข้ามาติดต่อมากขึ้น รวมถึงรายได้จากงารบริการวางแผนติดตั้งระบบต่างๆ ก็เพิ่มขึ้นด้วย
- กำไรสุทธิ Q2 เท่ากับ 10.5 ล้านบาท +58.1%
- กำไรเพิ่มมากกว่ารายได้ ต้องบอกว่า บริษัทนี้เน้น คน เป็นหัวใจของการพัฒนา ติดต่อลูกค้า วิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ถ้าได้ลูกค้าเพิ่มเยอะ ยังใช้คนเท่าเดิม ประสิทธิภาพต่อหน่วยจะเพิ่มขึ้น
- P/E 22.1 เท่า
แนวโน้มในอนาคตของ IIG
IIG มีความน่าสนใจที่หาลูกค้าใหม่ได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันก็ยังรักษาฐานลูกค้าเก่าไว้ได้อย่างเหนียวแน่น โดยเฉพาะตลาด CRM ที่กำลังเติบโตทั้งในประเทศและระดับโลก โจทย์หลักก็คงจะเป็นว่าจะทำอย่างไรถึงจะรักษาความสามารถแบบนี้ได้ต่อเนื่อง และยังบริหารจัดการค่าใช้จ่ายด้านพนักงานให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้กำไรเติบโตสม่ำเสมอ แต่ก็ต้องไม่ลืมระวังความเสี่ยงที่บริษัทเองผูกกับ software เพียงแค่ 2 รายหลัก (Salesforce และ Oracle) ก็อาจมองว่าเป็นความเสี่ยงได้เช่นกัน
Source: S&P Global Market Intelligence เรียบเรียงโดย Jitta