ข่าวดีสดๆ ร้อนๆ สหราชอาณาจักร เป็นประเทศแรกของโลกที่ได้ใช้วัคซีนป้องกัน Covid-19
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม รัฐบาลสหราชอาณาจักรได้รับรองการใช้งานวัคซีนที่ Pfizer ร่วมพัฒนากับ BioNTech โดยวัคซีนจะเริ่มผลิตและใช้ได้ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป
หน่วยงานอิสระ Medicines and Healthcare products Regulatory Agency (MHRA) บอกว่า วัคซีนของ Pfizer และ BioNTech ได้มีขั้นตอนการทดลองที่เข้มข้น ทำให้มั่นใจได้ว่า วัคซีนผ่านมาตรฐานด้านความปลอดภัย คุณภาพ และประสิทธิภาพ1
เราหวังว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 ในสหราชอาณาจักรจะดีขึ้นในไม่ช้า
ความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีน เริ่มมีความชัดเจนในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา นอกจาก Pfizer และ BioNTech แล้ว ยังมีมหาวิทยาลัย Oxford ร่วมกับ AstraZeneca และ Moderna
ทั้ง 3 กลุ่มบริษัทยา รายงานว่า วัคซีนป้องกัน Covid-19 ให้ผลดีในขั้นทดลองสูงกว่า 90%
เรียกได้ว่า เป็นข่าวดีที่ทำให้คนทั้งโลกได้หายใจคล่องขึ้น และนับเป็นความสำเร็จอีก 1 ขั้น เพราะการพัฒนายาหรือวัคซีน 1 โครงการ จะกินเวลานานหลายปี บางเคสว่ากันเป็น 10 ปี แต่การแพร่ระบาดของ Covid-19 เป็นตัวเร่งสำคัญ ทำให้ทุกกระบวนวิจัยและพัฒนาเกิดขึ้นได้ภายในระยะอันสั้น
แม้ว่าอาจจะต้องรออีกหลายขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการยืนยันผลครั้งสุดท้ายว่า วัคซีนมีความปลอดภัย รวมทั้งระยะเวลาการป้องกันโรค นอกจากนี้ยังมีขั้นตอนวางแผนการผลิตจำนวนนับพันล้านโดส และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องรับรองวัคซีนก่อนนำไปใช้2
แต่ข่าวนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของอุตสาหกรรม ‘Healthcare’ เพราะไม่ว่าจะมีวิกฤติโรคระบาด หรืออยู่ในภาวะปกติ ระบบสาธารณสุขล้วนมีความจำเป็นกับมนุษย์ทุกคนบนโลกนี้
ขนาดปัจจัยสี่ ที่เราได้เรียนและท่องจำกันมา ยังมี ‘ยารักษาโรค’ เป็น 1 ใน 4 ที่มนุษย์จำเป็นต้องใช้ในการดำรงชีวิต
ไม่เพียงเท่านั้น บริษัทโฮลดิ้งของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) อย่าง Berkshire Hathaway ยังได้เข้าลงทุนใน 4 บริษัทยายักษ์ใหญ่ รวมมูลค่าลงทุนกว่า 5,664 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา โดยรายงานผ่าน Form 13F ให้กับก.ล.ต. สหรัฐฯ
4 บริษัทยาที่ Berkshire Hathaway ได้แก่3
- AbbVie จำนวน 21.2 ล้านหุ้น มูลค่า 1,863 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
- Bristol Myers Squibb จำนวน 30 ล้านหุ้น มูลค่า 1,807 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
- Merck จำนวน 22.4 ล้านหุ้น มูลค่า 1,858 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
- Pfizer จำนวน 3.71 ล้านหุ้น มูลค่า 136.22 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
แม้ว่า ใน 4 บริษัทยานี้ แทบจะไม่มีความเกี่ยวข้องกับข่าวความคืบหน้าของวัคซีน มีแค่ Pfizer เท่านั้น ที่ประกาศถึงความสำเร็จขั้นแรกของวัคซีน Covid-19 พัฒนาร่วมกับ BioNTech4 แต่ก็นับว่า Berkshire Hathaway ลงทุนในสัดส่วนที่น้อยกว่าบริษัทอื่นๆ
อาจจะอนุมานได้ว่า การเข้าลงทุนใน 4 บริษัทยานี้ ไม่ใช่จากประเด็น Covid-19 เท่านั้น แต่เพราะ Berkshire Hathaway มองว่า บริษัทกลุ่มนี้จะเติบโตได้ระยะยาว ตามความต้องการของมนุษย์ทั่วโลก รวมทั้งโรคระบาดชนิดใหม่ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต
รู้จักกับธุรกิจ ‘Healthcare’ ระดับโลก
อุตสาหกรรม Healthcare สามารถแบ่งเป็นธุรกิจย่อย 4 กลุ่มหลักและ 1 ภาคบริการ ดังนี้5
- กลุ่มธุรกิจ Pharmaceutical บริษัทยา ซึ่งผลิตและจำหน่ายยา แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ยา Original ยาที่จดสิทธิบัตร และยา Generic ยาสามัญ หรือยาที่หมดสิทธิบัตรแล้ว
สำหรับสิทธิบัตรยาจะมีอายุ 20 ปี ซึ่งเจ้าของจะสามารถผลิตและจำหน่ายได้แต่เพียงผู้เดียว ดังนั้นในช่วงที่ถือสิทธิบัตรยา เป็นเวลาทองในการสร้างรายได้และกำไร
บริษัทในกลุ่มนี้ ได้แก่ บริษัท Johnson & Johnson (สหรัฐอเมริกา) บริษัท Roche (สวิสเซอร์แลนด์) บริษัท Takeda (ญี่ปุ่น) และบริษัท Sanofi (ฝรั่งเศส)
- กลุ่มธุรกิจ Biotechnology การศึกษาค้นคว้าสิ่งมีชีวิตเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ การพัฒนาวัคซีนจัดอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย
บริษัทในกลุ่มนี้ ได้แก่ บริษัท AmGen บริษัท Biogen และบริษัท Gilead ของสหรัฐฯ และ Bayer ของเยอรมัน
- กลุ่มธุรกิจ Healthcare Equipment & Supplies การผลิตเครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์ ซึ่งแบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่
- อุปกรณ์ใช้แล้วทิ้ง (Single-Use Devices) เข็มฉีดยา หลอดฉีดยา ถุงมือยาง มีสัดส่วน 20% ของการผลิต
- อุปกรณ์ใช้คงทน (Durable Medical Devices) เตียงคนไข้ รถเข็น เครื่องมือแพทย์ใช้เทคโนโลยีสูง เครื่องมือวินิจฉัยโรคต่างๆ มีสัดส่วน 75% ของการผลิต
- น้ำยาวินิจฉัยโรค (Reagents and test Kits) สำหรับใช้ในห้องปฏิบัติการ มีสัดส่วน 5% ของการผลิต
บริษัทในกลุ่มนี้ ได้แก่ เช่น บริษัท Abbott บริษัท Medtronic และบริษัท DePuy Synthes ของสหรัฐฯ และ Siemens ของเยอรมัน
- กลุ่มธุรกิจ Healthcare Provider การบริหารโรงพยาบาล มีรายได้จากค่ายา บริการของบุคลากรการแพทย์ การตรวจแล็บหรือเอ็กซ์เรย์ และห้องพักผู้ป่วย
บริษัทในกลุ่มนี้ ได้แก่ บริษัท Unitedhealth Group และบริษัท Teladoc Health ของสหรัฐฯ
- บริการ Healthcare Insurance ประกันสุขภาพ อาจจะมีคาบเกี่ยวกับกลุ่มการเงินและประกัน มีความสำคัญมากในหลายๆ ประเทศที่ค่ารักษาพยาบาลแพง แต่สวัสดิการของรัฐน้อย อย่างสหรัฐฯ
โอกาสของธุรกิจ ‘Healthcare’ ทั่วโลก
การแพร่ระบาดของ Covid-19 ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจชะงักงันไปทั่วโลก จากมาตรการล็อกดาวน์ และการรักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing)
ผลกระทบย่อมตามมาเป็นโดมิโน นอกจากเศรษฐกิจแต่ละประเทศทั่วโลกจะแย่ลง ราคาหุ้นและผลประกอบการเกือบทุกอุตสาหกรรมทั่วโลกยังติดลบ บางกลุ่มธุรกิจก็ไม่ค่อยสดใสนัก
ข้อมูลที่เราได้รวบรวมมา ชี้ให้เห็นว่า ผ่านมา 11 เดือน มีแค่ 2 กลุ่มธุรกิจที่มีผลประกอบการดีขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรก 2563 ได้แก่ ธุรกิจ IT (หุ้นเทคโนโลยี จัดอยู่ในกลุ่มนี้) กับธุรกิจ Healthcare นั่นเอง
สวนทางกับภาพรวมหุ้นจากทุกกลุ่มอุตสาหกรรมที่ยังติดลบเล็กน้อย และธุรกิจดั้งเดิมไม่ว่าจะเป็นพลังงาน การเงิน สาธารณูปโภค และอุตสาหกรรม ยังฟื้นตัวได้อยาก
นอกจากโรคระบาดอย่าง Covid-19 แล้ว ที่เป็นตัวเร่งให้เกิดการพัฒนาวัคซีนอย่างรวดเร็ว และความต้องการระบบสาธารณสุขที่ดี แล้วอะไรที่ทำให้ธุรกิจ Healthcare ยังสามารถเติบโตได้อีกทั่วโลก?
คำตอบ คือ สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งกำลังเป็น Mega Trend ทั่วโลก และประเด็นท้าทายหรับทุกรัฐบาลทั่วโลก ในการออกนโยบายเพื่อตอบสนองต่อจำนวนคนสูงวัยที่เพิ่มขึ้นทุกๆ ปี เพราะอายุขัยของผู้คนปัจจุบันยืนยาวขึ้น ขณะที่อัตราการเกิดใหม่กลับลดลงในหลายๆ ประเทศ ทำให้สัดส่วนประชากรสูงวัยเมื่อเทียบกับประชากรทั้งหมดเพิ่มมากขึ้น
Deloitte คาดการณ์ว่า ประชากรที่มีอายุ 65 ปีทั่วโลก จะมีสัดส่วน 11.8% ของประชากรทั้งหมดในปี 2566 โดยประเทศที่จะมีสัดส่วนประชากรสูงวัยสูงที่สุด คงหนีไม่พ้นญี่ปุ่น คาดว่าอยู่ที่ 29% รองลงมาคือ โซนยุโรปตะวันตกที่ 22%6
องค์การสหประชาชาติ (United Nations หรือ UN) ให้แบ่งระดับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เป็น 3 ระดับ ได้แกุ่7
- สังคมผู้สูงอายุ (Aging society) สัดส่วนประชากรอายุ 60 ปี ขึ้นไปมากกว่า 10% ของประชากรทั้งหมด หรือสัดส่วนประชากรอายุ 65 ปีขึ้นไปมากกว่า 7% ของประชากรทั้งหมด
- สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged society) สัดส่วนประชากรอายุ 60 ปี ขึ้นไปมากกว่า 20% ของประชากรทั้งหมด หรือสัดส่วนประชากรอายุ 65 ปีขึ้นไปมากกว่า 14% ของประชากรทั้งหมด
- สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มที่ (Super-aged society) หมายถึงสัดส่วนประชากรอายุ 65 ปีขึ้นไปมากกว่า 20% ประชากรทั้งหมด
นั่นหมายความว่า ญี่ปุ่นและยุโรปตะวันตกกำลังจะเป็น Super-aged society ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า และจะมีอีกหลายๆ ประเทศตามมาในอนาคต รวมทั้งไทยด้วย
เมื่อสังคมผู้สูงอายุกำลังขยายตัวในทุกมุมโลก ความต้องการระบบสาธารณสุข การรักษาพยาบาล และยารักษาโรคที่ดีจะเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว รวมทั้งจะต้องมีการวิจัยและพัฒนาเครื่องมือทางการแพทย์ วิธีการรักษา ยา และวัคซีน เพื่อมาสนับสนุนความต้องการจากกลุ่มคนไข้สูงวัยด้วย
Deloitte มองข้ามช็อตไปอีกว่า ประชากรที่ป่วยเป็นโรคเรื้อรัง อย่างเบาหวาน จะเพิ่มขึ้นถึง 48% เป็น 629 ล้านคนในปี 2588 นำโดยประเทศใหญ่ๆ อย่าง จีน 114.4 ล้านคน อินเดีย 72.9 ล้านคน และสหรัฐฯ 30.2 ล้านคน
เมื่อจำนวนผู้ป่วยและผู้สูงวัยเพิ่มขึ้น รัฐบาลแต่ละประเทศจำเป็นต้องใช้เงินลงทุนกับระบบสาธารณสุขอีกมหาศาล Deloitte มองว่า จะใช้เงินเพิ่มขึ้น 5% ต่อปี จนถึงปี 2566 เพิ่มจากปี 2557-61 ที่เพิ่มขึ้นปีละ 2.7%
ในปี 2566 เม็ดเงินที่ลงทุนในระบบสาธารณสุขคิดเป็น 10.2% ต่อ GDP โลก โดยสหรัฐฯ ยังเป็นประเทศที่ลงทุนกับระบบสาธารณสุขสูงที่สุด 12,262 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนต่อปี ส่วนปากีสถานลงทุนต่ำที่สุดที่ 45 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนต่อปีึ8
เห็นทิศทางอย่างนี้แล้ว ไม่ว่าจะยุคสมัยไหน อีกกี่สิบปีข้างหน้า ธุรกิจ ‘Healthcare’ ยังสามารถต้านทานกระแสของการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ เพราะทันทีที่มีโรคระบาดใหม่ๆ หรือมีโรคที่รักษาได้ยาก แพทย์และนักวิจัยทั่วโลก ก็พร้อมจะพัฒนาเครื่องมือ ยา และวัคซีน มาเพื่อต่อสู้กับโรคร้าย
เราจึงได้เห็นนวัตกรรมหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เกิดขึ้นในแวดวงสาธารณสุขทั่วโลกตลอดเวลา และยังสามารถเติบโตไปกับกลุ่มธุรกิจอื่นๆ ได้อีกด้วย เช่น แพลตฟอร์มการให้คำปรึกษาและวินิจฉัยโรคทางไกล หรือ Telemedicine เครื่องมือในห้องผ่าตัดที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence – AI) และหุ่นยนต์มาช่วยอำนวยความสะดวกให้แพทย์และพยาบาล
ในอนาคต เราอาจจะได้เห็นแพทย์ทำการผ่าตัดจากบ้าน โดยสั่งการผ่าน AI และให้หุ่นยนต์ในห้องผ่าตัดจัดการให้หมด ที่สำคัญคือ ใช้บุคลากรทางการแพทย์ในห้องผ่าตัดลดลงด้วย แก้ปัญหาบุคลากรขาดแคลนได้อีกทาง
ลงทุนหุ้น ‘Healthcare’ กับ Jitta Wealth
หากคุณต้องการคว้าโอกาสทองของอุตสาหกรรม Healthcare ทั่วโลก หรือมั่นใจว่า ในอีก 10 ปี 20 ปีข้างหน้า ความต้องการในอุตสาหกรรมนี้ จะยังไปได้อีกไกล เพราะสามารถเติบโตไปพร้อมกับการเปลี่ยนผ่านสู่โลกดิจิตอล (Digital Transformation)
Jitta Wealth Thematic คือ โอกาสลงทุนที่คุณสามารถเลือกได้ โดยเรามีกลุ่มธุรกิจ หรือธีม Healthcare ให้คุณเลือกลงทุนในกองทุน iShares Global Healthcare ETF (IXJ) อ้างอิงดัชนี S&P Global 1200 Health Care Index ที่เป็นตัวแทนของ 108 บริษัททั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ในธุรกิจเภสัชกรรม เทคโนโลยีชีวภาพ และเครื่องมือการแพทย์ที่กระจายอยู่ทั่วโลก
กองทุน IXJ จะลงทุนในธุรกิจ Healthcare ชั้นนำอย่างบริษัท Johnson & Johnson บริษัท Unitedhealth Group บริษัท Roche บริษัท Novartis บริษัท Pfizer บริษัท Merck & Co บริษัท Abbott Laboratories บริษัท Abbvie บริษัท Thermo Fisher Scientific และบริษัท Medtronic
ผลตอบแทนปี 2562 ของกองทุน IXJ อยู่ที่ 23.36% เฉลี่ย 10 ปีย้อนหลังที่ 13.08% ต่อปี
สัดส่วนการลงทนในธุรกิจ Healthcare ของกองทุน IXJ จะอยู่ในสหรัฐฯ 67.66% สวิสเซอร์แลนด์ 9.38% ญี่ปุ่น 6.72% สหราชอาณาจักร 4.13% และยังมีอีกหลายประเทศในยุโรป9
คุณสามารถเลือกลงทุนในธีม Healthcare เพียงธีมเดียว หากมั่นใจในการเติบโต หรือเลือกผสมกับธีมอื่นๆ ได้อีก 4 ธีม เพื่อกระจายความเสี่ยง ได้แก่ หุ้น Technology หุ้น Cloud Computing หุ้น E-commerce หรือหุ้น FinTech หรือจะผสมกับธีมตลาดหุ้นชั้นนำ อย่างสหรัฐฯ จีน หรืออินเดีย โดยใช้เงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 100,000 บาท
Jitta Wealth Thematic เป็นบริการกองทุนส่วนบุคคล นำเสนอ 7 ธีมธุรกิจอนาคตไกล กับ 3 ธีมตลาดหุ้นชั้นนำ หากคุณสนใจข้อมูลเพิ่มเติมศึกษาหรือติดต่อสอบถามได้ที่เว็บไซต์ https://jittawealth.com/thematic
อ้างอิง
- UK authorises Pfizer/BioNTech COVID-19 vaccine https://www.gov.uk/government/news/uk-authorises-pfizer-biontech-covid-19-vaccine
- Covid vaccine update: When will one be ready? https://www.bbc.com/news/health-51665497
- Warren Buffett’s Berkshire invests in four Big Pharma companies https://www.foxbusiness.com/business-leaders/warren-buffetts-berkshire-investing-in-4-big-pharma-companies
- Covid vaccine: First ‘milestone’ vaccine offers 90% protection https://www.bbc.com/news/health-54873105
- เจาะลึกธุรกิจ Healthcare ภาคธุรกิจแห่งโอกาสในการลงทุน https://www.scb.co.th/th/personal-banking/stories/business-maker/healthcare.html
- What will be the impact of the Covid-19 pandemic on healthcare systems? https://www2.deloitte.com/fr/fr/pages/covid-insights/articles/impact-covid19-healthcare-systems.html
- Activity-Friendly Built Environments in a Super-Aged Society, Japan: Current Challenges and toward a Research Agenda https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC6163734/
- 2020 Global health care sector outlook | Deloitte https://www2.deloitte.com/global/en/pages/life-sciences-and-healthcare/articles/global-health-care-sector-outlook.html
- iShares Global Healthcare ETF https://www.ishares.com/us/products/239744/ishares-global-healthcare-etf
อ่าน Blog ที่เกี่ยวข้อง
เมื่อ E-commerce เติบใหญ่ โอกาสลงทุนอยู่ไหนบ้าง?