บริษัทอะไร…ทำธุรกิจแต่ไม่มีรายได้จากการขายเลย?!?!
เป็นใครก็ต้องตกใจแบบผมครับ…อ่านงบเพลินๆ อยู่ดีๆ ดันมาเจองบการเงินที่ช่อง revenue เป็น 0
ตั้งสติสักพักถึงได้ร้องอ๋อครับว่า ธุรกิจแต่ละอุตสาหกรรมก็มีโครงสร้างแตกต่างกันออกไป วิธีการบันทึกรายรับรายจ่ายต่างๆ แม้จะเป็นมาตรฐานเดียวกัน แต่ก็ไม่เหมือนกันซะทีเดียว
เช่น ธุรกิจที่มี revenue เป็น 0 แบบนี้ เป็นไปได้ว่าเค้าทำธุรกิจที่รายได้มาจากอย่างอื่นที่ไม่ใช่การขาย เช่น ธุรกิจประเภทประกัน ที่รายได้มาจาก premiums หรือเบี้ยประกันเป็นหลัก
เพราะฉะนั้น จะหาคำตอบว่าบริษัททำธุรกิจอะไร มีรายได้จากไหน ใช้จ่ายกับอะไรบ้าง ถือสินทรัพย์อะไรบ้าง หนี้สินเยอะมั้ย ฯลฯ เพื่อวิเคราะห์ความเสี่ยงและความน่าลงทุนของบริษัท ก็ต้องรู้วิธีอ่านงบการเงินสำหรับแต่ละอุตสาหกรรมด้วย
คุณเริ่มต้นได้ง่ายๆ ที่หน้า Financials ของ Jitta ครับ เพราะงบการเงินบนแท็บ Financials ได้ถูกปรับให้เหมาะสมกับแต่ละอุตสาหกรรม แจกแจงรายละเอียดทางการเงินต่างๆ อย่างละเอียด สอดคล้องกับโครงสร้างธุรกิจแต่ละประเภทเป็นอย่างดี
มองปราดเดียวก็เข้าใจลักษณะธุรกิจและวิเคราะห์พื้นฐานบริษัทได้เห็นภาพ ไม่ต้องเสียเวลาหาคำตอบว่า revenue หายไปไหน…
ซึ่งรูปแบบงบการเงินตามอุตสาหกรรมที่เราได้ปรับไว้ให้ มี 4 ประเภท ดังนี้ครับ
1. กลุ่มธุรกิจธนาคาร (Banks)
ธนาคารเป็นกลุ่มธุรกิจที่แปลกครับ ในขณะที่บริษัทอื่นๆ มองดอกเบี้ยเงินกู้เป็นรายจ่าย พวกธนาคารกลับมองเป็นรายได้ นั่นก็เพราะธนาคารเป็นตัวกลางช่วยหมุนเงิน โน้มน้าวให้คนนำเงินมาฝากกับตัวเองแลกกับดอกเบี้ยเงินฝากซึ่งธนาคารถือเป็นรายจ่าย จากนั้นก็เอาเงินที่คนฝากไว้ไปปล่อยกู้ต่อ แล้วคิดค่าธรรมเนียมเป็นดอกเบี้ยเงินกู้ จึงสรุปได้ว่ารายได้ของธนาคารไม่ได้มาจากการขายอะไรเลย แต่มาจากดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมของธุรกรรมทางการเงินต่างๆ
งบการเงินของกลุ่มธนาคารในเว็บไซต์ Jitta เลยแจกแจงรายได้เหล่านี้ให้เฉพาะเจาะจงขึ้น คุณเห็นทันทีว่ารายได้จากดอกเบี้ยเงินกู้เป็นเท่าไหร่ รายได้ส่วนอื่นๆ มาจากไหนบ้าง และรายจ่ายที่เป็นดอกเบี้ยเงินฝากมีเท่าไหร่ จะได้มองภาพของธุรกิจธนาคารแต่ละแห่งได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
2. กลุ่มธุรกิจประกันภัย (Insurance)
ธุรกิจประกันอาจจะดูเข้าใจยาก แต่จริงๆ แล้วมีวิธีการทำธุรกิจที่ไม่ซับซ้อนครับ หน้าที่หลักๆ ของบริษัทประกันคือคุ้มครองความเสียหายของเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ เจ็บป่วย หรือเสียชีวิต โดยมีข้อแม้ว่าคุณต้องจ่าย “เบี้ยประกัน” แลกกับการได้รับเงินชดเชยเป็นก้อนหากเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้คุณสูญเสียหรือเสียหาย ดังนั้น รายได้ที่เห็นได้ชัดเจนของธุรกิจประกันคือค่าเบี้ยประกัน หรือ premium ที่คุณจ่ายให้บริษัท ส่วนรายจ่ายที่บริษัทต้องควบคุมไม่ให้มากเกินไปก็คือค่าชดเชย ที่จะจ่ายให้คุณเมื่อเกิดความเสียหายครับ
เมื่อดูงบการเงินของบริษัทประกันใน Jitta คุณจะเห็นความเสี่ยงที่บริษัทประกันแต่ละแห่งแบกรับอยู่ครับ ว่าแต่ละแห่งจ่ายเงินชดเชยไปเป็นเท่าไหร่ของรายได้เบี้ยประกันที่เรียกเก็บ และกำไรสุทธิที่ได้จากเบี้ยประกันคุ้มค่ากับความเสี่ยงที่ต้องแบกรับหรือไม่
3. กลุ่มธุรกิจสาธารณูปโภค (Utilities)
ธุรกิจสาธารณูปโภคจะมีลักษณะการดำเนินงานแตกต่างกันไป แล้วแต่บริการ เช่น พลังงานไฟฟ้า ก๊าซธรรมชาติ ไอน้ำ ประปา แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันและเป็นสิ่งที่คุณสังเกตได้ง่ายๆ เลยก็คือ ธุรกิจเหล่านี้จะมีค่าใช้จ่ายเพื่อขยายหรือปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น (Operations and Maintenance) หรือค่าพลังงานหรือเชื้อเพลิง (Fuel & Purchased Power) ที่สูงมากๆ และเป็นเรื่องปกติที่หนี้สินจะสูงด้วยเช่นกัน ส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินและเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท ได้รับผลกระทบจากการขึ้นลงของอัตราดอกเบี้ยมากเป็นพิเศษ เพราะหนี้สินที่กู้มาครับ
4. กลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ (Industrials)
ที่เหลือก็จะเป็นกลุ่มที่ผลิตสินค้ามาแล้วขายไป มีโครงสร้างที่ค่อนข้างตรงไปตรงมา ธุรกิจในกลุ่มนี้จึงมีหน้าตางบการเงินแบบที่คุณคุ้นเคย เน้นวิเคราะห์รูปแบบการทำธุรกิจของแต่ละบริษัทว่ามีต้นทุนเปรียบเทียบกับรายได้เท่าไหร่ ยั่งยืนหรือไม่ และมีความผันผวนมากแค่ไหน
หน้าตาของงบการเงินที่ Jitta ปรับให้แตกต่างกันไปตามประเภทอุตสาหกรม นอกจากจะช่วยให้คุณแยกหุ้นออกเป็นกลุ่มธุรกิจได้อย่างรวดเร็วง่ายดายแล้ว ยังเผยให้เห็นลักษณะเฉพาะของแต่ละกลุ่มธุรกิจอย่างทะลุปรุโปร่ง การวิเคราะห์หุ้นของคุณจึงทำได้ละเอียดและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น