Blog

บทความ แนวคิด และกลยุทธ์การลงทุน

Jitta Alert เปิดให้ทุกคนใช้งานได้แล้วนะครับ

หลังจากปล่อยให้ Jitta beta users ทดลองใช้งานมาสักพักใหญ่ๆ วันนี้ Jitta Alert ก็พร้อมให้ทุกคนเข้าไปลองใช้ได้เลยครับ โดยเมื่อ Follow หุ้นเสร็จแล้ว ก็สามารถคลิกที่ปุ่มเฟืองเพื่อเข้าไปตั้งค่าได้เลยว่า จะให้ Jitta ส่ง Alert มาเมื่อหุ้นตัวนั้น ราคาสูงหรือต่ำกว่า Jitta Line กี่ % ครับ

โดย Jitta จะส่ง Alert หาเราทางอีเมล์และทาง Notification ทุกครั้งที่ราคาหุ้นขึ้นลงผ่านจุด Alert ที่เราตั้งไว้ รวมทั้งช่วง +-5% และ +-10% ของค่า Alert ที่เราตั้งไว้ด้วยครับ เพื่อให้เรามีเวลาค่อยๆดูและตัดสินใจลงทุนได้ดีขึ้น

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากเราตั้งค่า Jitta Alert ของหุ้น BBL ไว้ที่ 0% below Jitta Line นั้น Jitta Alert ก็จะส่งอีเมล์และ Notification มาที่เราเมื่อ “ราคาหุ้นขึ้นหรือลงผ่านจุด 10% above Jitta Line, 5% above Jitta Line, 0% below Jitta Line, 5% below Jitta Line, 10% below Jitta Line”

ที่ทำแบบนี้ก็ด้วยเหตุผล 2 ประการครับ

1. การตั้งแบบนี้ทำให้สามารถ Alert มาบอกเราได้ทั้ง หุ้นขึ้นหรือลง จากนั้นเราก็ตัดสินใจได้ว่าจะขายหรือจะซื้อ ตามทิศทางของราคาหรือสถานการณ์ในช่วงเวลานั้นๆได้เช่น ถ้าหาก Jitta Alert เตือนมาที่ 10% above Jitta Line โดยราคาหุ้นเพิ่มสูงขึ้น เราก็อาจจะตัดสินใจเตรียมพร้อมขายหุ้นออกไปได้ ในขณะที่ ถ้าหากเตือนมาที่ 10% above Jitta Line เหมือนกัน แต่ในทิศทางที่ราคาหุ้นกำลังลดลง เราก็อาจจะเตรียมพร้อมติดตามสถานการณ์เพื่อรอซื้อหุ้นเมื่อราคาหุ้นลดลงมาที่ 0% below Jitta Line หรือต่ำกว่าได้ครับ
2. การบอกเป็นช่วงๆทีละ 5% ทำให้เราค่อยๆคอยดูสถานการณ์ได้ทีละนิด และมีเวลาให้ค่อยๆคิดตัดสินใจ เพราะบางครั้งการส่ง Alert ไปครั้งเดียว บางคนดูแล้วคิดว่าจะซื้อแต่ยังไม่มีเวลาแล้วก็ลืมไปเลย ในขณะที่การทยอยส่งทีละช่วงราคาจะทำให้เราค่อยๆเห็น Alert ในช่วงราคาที่เหมาะสมทีละนิด และ ไม่ลืมที่จะตัดสินใจซื้อหรือขายหุ้นนอกจากนี้เมื่อเราตั้งค่า Jitta Alert ไว้ในหุ้นตัวไหนแล้ว หุ้นตัวนั้นจะถูกติดตั้ง Jitta Tag : Alert โดยอัตโนมัติ ทำให้เราสามารถ Search คำว่า Alert เพื่อค้นหาหุ้นเหล่านี้และปรับเปลี่ยนการตั้งค่า Alert ได้โดยง่ายครับ

อีกคำถามนึงที่มีหลายๆคนถามมาก็คือ

ทำไม Jitta Alert ถึงไม่สามารถตั้งค่า Alert เป็นราคาหุ้นตามที่ต้องการได้เลย

หลักๆก็ตามที่ผมเคยพูดเสมอครับว่า คนในตลาดหุ้นมักจะมองที่มิติเรื่องราคากันเป็นหลัก ทั้งๆที่จริงๆแล้วราคาหุ้นโดยตัวเองเดี่ยวๆนั้น ไม่สามารถนำมาใช้ตัดสินใจในการลงทุนใดๆได้เลยครับ

ทั้งนี้สำหรับรายละเอียด ผมก็ขอนำคำตอบที่เคยตอบไว้ในกลุ่ม Jitta beta users มาตอบนะครับ จะได้หายสงสัยกันครับ

คำถาม : ทำไม Jitta Alert ถึงไม่สามารถตั้งค่า Alert เป็นราคาหุ้นตามที่ต้องการได้เลย

คำตอบ : ลองคิดดูแล้วครับ แต่ว่าจริงๆแล้ว ราคาหุ้นมันจะเปลี่ยนไปตาม Jitta Line ด้วยนะครับ เช่น ถ้าหาก 10% above Jitta Line ณ วันนี้มันคือราคา $75 อีก 3 เดือน มันอาจจะเป็น $90 ก็ได้ครับ ตาม Jitta Line ที่สูงขึ้นเรื่อยๆตามเดือนครับ ดังนั้นการแสดงราคาจะยิ่งวุ่นวายครับ เพราะคนจะคิดว่าจะ alert เมื่อราคานั้นเท่านั้นครับ แต่ในความเป็นจริงคือ สิ่งที่คนควรจะตั้งมากกว่าก็คือ ราคาถูกแพงเท่าไหร่ เทียบกับมูลค่าครับ

อีกอย่างคือ ถ้าหากหุ้นที่ดีแล้ว Jitta Line สูงขึ้นเรื่อยๆทุกปี ถ้าหากไปตั้งมองที่ราคาเราก็จะไม่มีวันซื้อได้อีกเลยครับ และ alert อาจจะไม่ทำงานอีกเลย เพราะราคาสูงขึ้นไปเรื่อยๆ

แต่ถ้าหากตั้งว่า 5% above Jitta Line ต่อให้ราคาสูงขึ้นทุกปี ก็อาจจะมีปีใดปีนึงในอนาคตที่เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ราคาตกมาอยู่ที่ 5% above Jitta Line ตัว alert ก็ยังทำงานได้ตลอดไปครับ เพื่อให้เราทราบทุกครั้งที่ ทรัพย์สินที่เราสนใจมีราคาที่เราน่าจะสนใจแล้วครับ

ดังนั้นในมุมมองการลงทุนจริงๆนั้น สิ่งที่เราต้องการคือ ความถูกแพงของราคาหุ้นเทียบกับมูลค่าที่แท้จริงมากกว่า ที่จะทำให้เราตัดสินใจลงทุนได้ถูกต้องครับ และ Jitta เอง ที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยมุมมองการลงทุน ก็เลยคง concept เดิมไว้ครับ ว่าใช้ข้อมูลให้น้อยที่สุด เพื่อให้ตัดสินใจลงทุนได้อย่างถูกต้องครับ

ด้วยความง่ายของ Jitta Alert นี้ ผมก็เชื่อว่าจะทำให้การลงทุนเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นไปอีกระดับนะครับ เพราะทำให้เราไม่ต้องมานั่งวุ่นวายกับราคาหุ้นเลย เน้นมองหาทรัพย์สินที่ดีไว้ แล้วรอจังหวะที่ราคาลงมาต่ำกว่ามูลค่าทรัพย์สินในระดับที่เราตั้ง Jitta Alert ไว้ ก็ค่อยเข้าไปดูข้อมูลแล้วตัดสินใจลงทุนได้ทันทีครับ

ลองจินตนาการดูว่า ถ้าหากในอนาคต Jitta มีหุ้นของตลาดหลักๆในต่างประเทศครบทั้งหมด สิ่งที่เราต้องทำก็แค่เข้าไปตั้ง Alert ให้หุ้นทุกตัวที่มี Jitta Score มากกว่า 7 ในแต่ละประเทศ ที่ 0% below Jitta Line จากนั้น ก็ใช้เวลาอย่างมีความสุข เพื่อรอการลงทุนดีๆที่จะ Alert เข้ามาหาเราเองตลอดเวลาครับ

เพียงเท่านี้ เราก็สามารถเป็นเจ้าของธุรกิจยอดเยี่ยมต่างๆทั่วโลก ได้แบบง่ายๆเลยครับ