by Jitta
วันที่ 5 เม.ย. 2560 • อัปเดตล่าสุดเมื่อ: วันที่ 12 ม.ค. 2566
การแตกพาร์ของหุ้นบน Jitta

คำถามนึงที่มักจะมีคนถามผมมาบ่อยๆก็คือ ทำไมค่ากำไรต่อหุ้น (Earning Per Share) บางหุ้นนั้น ตัวเลขบน Jitta ไม่ตรงกับตัวเลขใน set.or.th ในกรณีล่าสุดที่มีคนถามผมมาก็คือหุ้น MAKRO ครับ

ถ้าเข้าไปดูข้อมูลใน SET จะเห็นว่า กำไรต่อหุ้นของ MAKRO ปี 53-56 มีค่าเป็น 7.84, 10.85, 14.82, 0.9 ตามลำดับ (ดูจากในรูป)

ในขณะที่ข้อมูลใน Jitta FactSheet กำไรต่อหุ้นของ MAKRO ปี 53-56 มีค่าเท่ากับ 0.39, 0.54, 0.74, 0.9 https://www.jitta.com/stock/bkk:makro/factsheet

ทำไมตัวเลขกำไรต่อหุ้นปี 53-55 มันช่างแตกต่างกันเหลือเกิน เกิดอะไรขึ้น?

จริงๆก็ไม่มีอะไรมากครับ เหตุผลก็คือ ในปี 56 นั้น MAKRO มีการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (แตกพาร์) จาก 1 หุ้น มีมูลค่าหุ้นละ 10 บาท ให้กลายเป็น 20 หุ้น มีมูลค่าหุ้นละ 0.5 บาท

ซึ่งการแตกพาร์นี้ ไม่ได้ทำให้ธุรกิจของ MAKRO หรือ ตัวเลขหลักๆในงบการเงินเปลี่ยนแปลงเลย ยกเว้นทำให้หุ้นสามัญ (common share) ของ MAKRO เพิ่มจาก 240 ล้านหุ้น กลายเป็น 4,800 ล้านหุ้น จึงทำให้ค่าต่างๆที่คิดออกมาเป็นต่อหุ้น จะต้องถูกหารด้วย 4,800 ล้านหุ้น แทนที่จะเป็น 240 ล้านหุ้น เหมือนในปีก่อนๆครับ

ซึ่งข้อมูลบน SET นั้น ไม่มีการคิดปรับปรุงค่าย้อนหลังให้ครับ เลยทำให้ในปี 53-55 นั้น กำไรต่อหุ้นได้จากการหารกำไรสุทธิด้วย 240 ล้าน ในขณะที่ปี 56 นั้น กำไรต่อหุ้นมาจากการหารกำไรสุทธิด้วย 4,800 ล้าน เลยทำให้ดูเหมือนว่ากำไรต่อหุ้นลดลงฮวบฮาบจาก 14.82 บาทต่อหุ้นในปี 55 เหลือเพียงแค่ 0.9 บาทต่อหุ้นในปี 56 ครับ

พอเห็นแบบนี้บางคนที่มองผ่านๆอาจจะคิดว่าธุรกิจแย่ลง เพราะกำไรต่อหุ้นจึงลดลง (ทั้งๆถ้าหากดูที่กำไรสุทธิจะเห็นว่าเพิ่มขึ้นจาก 3,555 ล้านบาท เป็น 4,298 ล้านบาท) เลยอาจจะทำให้วิเคราะห์คุณภาพบริษัทผิดเพี้ยนไปได้

ในขณะที่ Jitta นั้น เมื่อได้รับข้อมูลหุ้นว่ามีการแตกพาร์ ก็จะทำการปรับค่า ต่อหุ้น (Per Share) ทุกค่า เช่น กำไรต่อหุ้น ปันผลต่อหุ้น ย้อนหลังไปใหม่ทั้งหมดทุกปีที่ Jitta มีข้อมูลเก็บไว้ เพื่อให้นักลงทุนจะได้อ้างอิงค่าต่างๆใน FactSheet ไปใช้ได้อย่างถูกต้อง และในขณะเดียวกันก็จะได้คำนวณ Jitta Score, Jitta Line และค่า Jitta Fundamental ต่างๆออกมาใหม่ได้อย่างถูกต้องเช่นเดียวกันครับ

ผมคิดว่าสิ่งหนึ่งที่ทำให้โลกของการลงทุนสับสนวุ่นวายมากก็คือ เรื่องของการแตกพาร์ นี่เองครับ เพราะทำให้คนที่ไม่เคยเข้าใจเรื่องนี้มาก่อน จะงงได้เวลาราคาหุ้นอยู่ๆตกฮวบหลังแตกพาร์ (อย่าง MAKRO ราคา 446 บาทต่อหุ้น ลดเหลือ 29 บาทต่อหุ้น) หรือ ตัวเลข per share ที่อยู่ๆเปลี่ยนแปลงไปในทางแย่ลง (กรณี MAKRO จาก 14.85 บาทต่อหุ้น เหลือ 0.9 บาทต่อหุ้น)

แล้วจะดูออกได้อย่างไรว่าบริษัทมีการแตกพาร์?

เรื่องนี้ก็ง่ายมากครับ และเป็นสิ่งที่ทุกคนควรฝึกฝนให้เป็นนิสัยเวลาดูตัวเลขทางการเงิน ก็คือ การดูค่าตัวเลขจริงๆ คู่กับ ตัวเลขต่อหุ้นเสมอๆครับ

อย่างในกรณี MAKRO ที่ยกตัวอย่างไปแล้ว ถ้าเราดูตัวเลขกำไรสุทธิและกำไรต่อหุ้นบน set.or.th ก็จะเห็นความผิดปรกติทันทีครับว่า กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น แต่กำไรต่อหุ้นลดลง เราก็ลองเข้าไปอ่านข่าวดูว่าบริษัทมีการแตกพาร์ที่เท่าไหร่ครับ

หรือถ้าจะให้ง่ายและเร็วขึ้น ก็เอา กำไรสุทธิ หารด้วย กำไรต่อหุ้น เพื่อหาจำนวนหุ้นออกมาเทียบกัน ก็จะรู้แล้วว่า จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นกี่เท่าครับ ก็คือ แตกพาร์เท่านั้นเท่าครับ

จากนั้นก็เอาจำนวนหุ้นใหม่ไปหารกับค่าต่างๆ เพื่อดูค่าต่อหุ้นย้อนหลังใหม่ทั้งหมดครับ ซึ่งก็เป็นงานที่เหนื่อยเอาการทีเดียว แต่ก็จะทำให้เราได้ค่า per share ที่ถูกต้องอยู่เสมอครับ

สำหรับ Jitta เองนั้น ก็ได้ค่อยๆสร้างระบบเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องการแตกพาร์นี้ให้ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยพยายามจะทำให้นักลงทุนได้รับข้อมุลที่ถูกต้องมากที่สุด (โดยไม่ต้องเหนื่อย) เพราะผมเคยมีปัญหามากเวลาเข้าไปดูตัวเลขต่อหุ้นของหลายๆเว็บแล้วไม่มีการปรับตัวเลขย้อนหลังให้แล้วต้องมานั่งทำเองครับ

ซึ่งเรื่องนี้ ก็ต้องขอบคุณ Kao Kung หนึ่งในทีมนักพัฒนาของ Jitta ที่มีความอดทนอย่างสูงในค่อยๆสร้างและตรวจสอบระบบเพื่อแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจังในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาครับ ทำให้ผมเชื่อว่าปัจจุบัน Jitta เป็นหนึ่งในเว็บที่มีการอัพเดทข้อมูลหลังการแตกพาร์ที่ถูกต้องและรวดเร็วมากที่สุดเว็บนึงแน่นอนครับ