by Jitta
วันที่ 22 เม.ย. 2563 • อัปเดตล่าสุดเมื่อ: วันที่ 22 เม.ย. 2563
หุ้นไหนคะแนนดี น่าลงทุน (ตอนที่ 1)

“ธุรกิจโรงแรม” เป็น 1 ใน 3 กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะฟื้นกลับคืนมาดีอีกครั้งไม่ได้ คราวนี้ Jitta ได้ร่วมกับ Stock Vitamins – วิตามินหุ้น มาเจาะลึกพื้นฐานหุ้นกลุ่มโรงแรมที่น่าสนใจ 3 บริษัท ว่าหุ้นไหนน่าช้อนเก็บไว้ จบ COVID-19 ไป มีโอกาสกลับมาได้ดีเหมือนเดิม 

โดยได้เอาเครื่องมือของ Jitta มาพิจารณาไปด้วยกัน ได้แก่

  • Jitta Score เป็นตัวบอกคุณภาพหุ้น โดยเอาข้อมูลการเงิน 10 ปีย้อนหลังมาคำนวณ และให้คะแนนตั้งแต่ 0-10 (ยิ่งมากยิ่งดี เกิน 5 ถือว่าดี) ข้อมูลที่ใช้คำนวณก็มีตั้งแต่รายได้ กำไร ปันผล อัตราส่วนการเงิน เป็นต้น
  • Jitta Line เป็นตัวบอกราคาที่เหมาะสม ยิ่งราคา Under Jitta Line ถือว่าดี คำนวณด้วยหลักการที่ว่า “หากซื้อทั้งบริษัทต้องใช้เงินเท่าไหร่ถึงจะคืนทุนใน 10 ปี และหลังจากนั้นก็จะเป็นเครื่องจักรผลิตเงินสดต่อไปเรื่อยๆ”
  • Jitta Factors  แสดงผลการวิเคราะห์ปัจจัยสําคัญของธุรกิจใน 5 มิติด้วยกัน โดยนําเฉพาะตัวเลขจากงบการเงินต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยนั้นๆ มาทําการวิเคราะห์ แล้วให้เป็นคะแนนตั้งแต่ 0-100 คะแนนยิ่งสูงหมายถึงคุณภาพที่ดี
    • Growth Opportunity แสดงให้เห็นการเติบโตของบริษัทว่าอยู่ในช่วงไหน มีโอกาสเติบโตได้อีกหรืออิ่มตัวแล้ว ดูการเติบโตของรายได้ กำไรสุทธิ EBITDA และ EPS เป็นต้น
    • Recent Business Performance แสดงให้เห็นว่าผลการดําเนินงานของธุรกิจใน 4 ไตรมาสหลังสุดเป็นอย่างไร เป็นการบอกแนวโน้มว่าช่วงล่าสุดมีผลงานที่ดี
    • Financial Strength แสดงให้เห็นความแข็งแกร่งในฐานะการเงินของบริษัท คิดมาจากค่าหลักๆ ในหมวดของงบดุลและกระแสเงินสด เช่น Current Ratio, Cash Cycle เป็นต้น
    • Return to Shareholders แสดงให้เห็นว่าบริษัทมีการส่งมอบความมั่งคั่งกลับคืนให้กับผู้ถือหุ้นได้ดีมากน้อยแค่ไหน ดูทั้ง P/E, PEG, Dividend Yield, ROE เป็นต้น
    • Competitive Advantage แสดงให้เห็นว่าบริษัทมีความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจมากน้อยแค่ไหน ดูข้อมูลที่เกี่ยวกับการบริหารธุรกิจทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นรายได้ กำไร กระแสเงินสด การควบคุมต้นทุน ผ่านอัตราส่วนอย่างเช่น ROA, ROIC เป็นต้น
  • Jitta Signs บอกจุดเด่นและจุดด้อยของบริษัทจากงบการเงิน เอาไว้ดูแบบรวดเร็ว โดยแสดงเป็นสีเขียว สีแดง มีคำอธิบายสั้นๆ และพอคลิกบน Signs ก็จะมีตัวเลขงบแบบย่อๆ ปรากฏอยู่

กลุ่มโรงแรม

3 หุ้นที่เราคัดมาให้ดู คือหุ้นที่มี Jitta Score สูงๆ ราคาตลาดต่ำกว่า Jitta Line และมี Jitta Factors ที่โดดเด่น มาเล่าให้ฟังกันครับ

1. MINT

หุ้นที่ดูมีคุณภาพดีที่สุดในกลุ่มด้วย Jitta Score 5.48 และราคายัง Under Jitta Line อยู่ถึง 30%

Jitta Factors ที่โดดเด่น จะมี 2 ตัว คือ Recent Business Performance และ Growth Opportunity เพราะว่าผลงานปีล่าสุดโดดเด่น รายได้ +59% และกำไรสุทธิ +96% แต่ที่เห็นว่าโตเยอะเพราะว่าเป็นการรวมงบของ NH Hotel ที่ไปซื้อเข้ามาด้วย

ในทางตรงกันข้าม เราก็จะพบว่าหนี้สินระยะยาวและการลงทุนของ MINT สูงมาก และอัตรากำไรก็มีแนวโน้มลดลง

  • D/E 2.23 เท่า หนี้สินระยะยาวมี 132,000 ล้านบาท (เกือบ 80% ของหนี้สินรวม)
  • GPM 45.2% (ลดลงจาก 56.3%)
  • NPM 8.2% (เพิ่มจาก 6.8%)

2. CENTEL

เป็นหุ้นอีกตัวที่ได้ Jitta Score 5.1 และราคายังอยู่ต่ำกว่า Jitta Line 20%

Jitta Factors ที่โดดเด่นมาเลย คือ Financial Strength เพราะว่า D/E ไม่สูง 0.98 เท่า และมีหนี้สินระยะยาวค่อนข้างต่ำ รวมทั้งยังจ่ายปันผลได้ทุกปีที่ระดับประมาณ 2.5% เรียกได้ว่า บริษัทมีพื้นฐานมั่นคง ไม่ล้มง่าย หนี้น้อย

แต่ถ้ามองในอีกมุมหนึ่งคือ การเติบโต ก็ต้องบอกว่า ดูไม่ดีนัก ทั้งรายได้ที่ -3% และกำไรสุทธิ -20% โดยลดลงมาจากทั้งกลุ่มของโรงแรมและร้านอาหาร ที่มีทั้งผลกระทบของนักท่องเที่ยว การปิดปรับปรุงโรงแรม และยอดขายต่อร้านเดิมของร้านอาหารที่ลดลง (ได้การขยายร้านมาช่วยแต่ไม่พอ)

พอเรามาดูอัตราส่วนงบการเงิน เลยปรับลดกันหมด เช่น

  • ROE 13.1% (ลดลงจาก 17.8%)
  • ROA 8.5% (ลดลงจาก 11.3%)
  • GPM 40.9% (ลดลงจาก 41.8%)
  • NPM 8.2% (ลดลงจาก 10%)

3. ERW

ได้ Jitta Score 4.74 และราคายังอยู่ต่ำกว่า Jitta Line ถึง 60%

ซึ่งก็เพราะ Jitta Factors ต่างๆ อาจไม่ค่อยดีมากนัก ยกเว้นปันผลที่จ่ายสม่ำเสมอ 1.5-2% Yield สาเหตุก็มาจากทั้ง

  • รายได้ไม่ค่อยโต +2% กำไรหดตัว -17% เพราะว่าโรงแรมหลักที่อยู่ในกลุ่ม Luxury ผลงานไม่ค่อยดี มีแค่ Hop Inn ที่โต แต่ว่าสัดส่วนรายได้และกำไรไม่ได้ใหญ่มากที่จะมาชดเชยได้ทั้งกลุ่ม
  • D/E 2.06 เท่า ค่อนข้างสูง และหนี้ระยะยาว ประมาณ 8,500 ล้านบาท (72% ของหนี้สินรวม)

ต้องสรุปแบบนี้ว่า…ในช่วงสั้นเราอาจเห็นการฟื้นตัวของราคาหุ้นโรงแรมที่ราคาลงไปเยอะมาก

แต่ถามว่าจะกลับไปเติบโตได้มากแค่ไหน คงต้องมาดูกันถึงเรื่อง COVID-19 ว่าจะจบเมื่อไหร่ แล้วนักท่องเที่ยวจะเริ่มกลับมากันตอนไหนกัน รวมทั้งการกลับมาเปิดโรงแรมในช่วงแรกเชื่อว่าต้องมีการทำโปรโมชั่นกันหนักเพื่อดึงลูกค้าให้กลับมาก่อน (แปลว่ารายได้ค่าห้องเฉลี่ยจะลด) ให้ได้ Occupancy ที่ถึงจุดคุ้มทุน ทำให้รายได้และกำไรอาจจะไม่ได้กลับมาแบบก้าวกระโดดทันที

อยากดูข้อมูลหุ้นเพิ่มเติม เข้าดูได้ที่เว็บไซต์ www.jitta.com 
หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Jitta ที่ https://link.jitta.co/download