by Arnon Pattanaanunsuk
วันที่ 9 ก.ย. 2564 • อัปเดตล่าสุดเมื่อ: วันที่ 12 ม.ค. 2566
3 เหตุผลที่ ‘ตลาดหุ้นมาเลเซีย’ น่าสนใจ

ตลาดหุ้นมาเลเซียก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางในปี 2507 ปีเดียวกับการแยกประเทศของมาเลเซีย และสิงคโปร์ ซึ่งในช่วงเวลานั้นตลาดหุ้นยังคงรวมบริษัทจากทั้ง 2 ประเทศเข้าด้วยกัน ภายใต้ชื่อ Malaysian and Singapore Stock Exchange (MSSE) 

ต่อมาในปี 2516 มาเลเซียและสิงคโปร์ได้ยุติการใช้ค่าเงินร่วมกัน ทำให้ตลาดหุ้น MSSE แยกออกมาเป็น 2 ตลาด ใช้ชื่อว่า Stock Exchange of Singapore (SES) และ Kuala Lumpur Stock Exchange (KLSE) ซึ่งในภายหลัง KLSE ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Bursa Malaysia ที่กลายมาเป็นตลาดหุ้นหลักของมาเลเซียในปัจจุบัน

แล้วทำไมตลาดหุ้นมาเลเซียถึงน่าสนใจ บริษัทไหนมีคุณภาพกิจการดี เป็นหุ้นคุณค่า (Value Stock) ที่น่าลงทุน เราได้สรุป 3 เหตุผล และยกตัวอย่าง 5 หุ้นคุณค่าที่ผ่านการวิเคราะห์จาก AI และอัลกอริทึมของแพลตฟอร์ม Jitta มาให้คุณแล้ว

เหตุผลที่ 1 – เศรษฐกิจมาเลเซียเติบโต แม้ Covid-19 ยังอยู่

ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจของมาเลเซียจะเจอผลกระทบจาก Covid-19 ทำให้ GDP ติดลบ 5.6% ในปี 2563 แต่ธนาคารกลางของมาเลเซียก็คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจมาเลเซียจะฟื้นตัวได้ดีในปี 2564 

การที่ Covid-19 กลับมาระบาดหนักอีกครั้งในปีนี้ ทำให้หลายคนพะวงว่าเศรษฐกิจมาเลเซียจะฟื้นตัวไม่ได้ตามที่คาดการณ์ไว้  แต่กลับกลายเป็นว่า เศรษฐกิจของมาเลเซียเติบโตไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 สูงถึง 16.1%

นอกจากนี้ทางรัฐบาลมาเลเซียยังได้ออกมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ชัดเจน รวมไปถึงเร่งฉีดวัคซีน หวังจะลดจำนวนผู้ติดเชื้อ Covid-19 ในประเทศด้วย รัฐบาลมาเลเซียมีความมั่นใจว่า เศรษฐกิจจะฟื้นตัวมาที่ 6.0-7.5% ในปี 2564 และรัฐบาลจะควบคุมและยับยั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดได้โดยเร็ว 

องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของมาเลเซียจะยังคงฟื้นตัว 4.3% ในปี 2564 และ 6.1% ในปี 2565 และนั่นถือเป็นก้าวสำคัญที่จะพามาเลเซียผ่านพ้นวิกฤต และเติบโตมากขึ้นในอนาคต

แน่นอนว่า ผลกระทบจาก Covid-19 ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นลงดิ่งทั่วโลก รวมไปถึง ‘ตลาดหุ้นมาเลเซีย’ ด้วย แต่ปัจจุบันดัชนี FTSE Bursa Malaysia KLCI ฟื้นตัวกลับมาเท่าช่วงก่อนเกิด Covid-19 แล้ว แม้จะเผชิญการระบาดระลอกใหม่ แต่ดัชนีก็ไม่ได้ผันผวนเท่าปี 2563 เป็นตัวสะท้อนว่า นักลงทุนก็เข้าใจสถานการณ์และผ่านบทเรียนจากการระบาดครั้งแรกมาแล้ว

เหตุผลที่ 2 – อุตสาหกรรมและพฤติกรรมผู้บริโภคของมาเลเซียมีความคล้ายคลึงกับไทย

อุตสาหกรรมที่โดดเด่นของมาเลเซียจะคล้ายคลึงกับไทย เนื่องจากมีพื้นที่ใกล้เคียงกันและวิถีชีวิตประชาชนคล้ายคลึงกัน นอกจากนี้เมื่อเป็นประเทศกำลังพัฒนาในช่วงเวลาเดียวกัน ที่ต้องการเติบโตด้วยภาคอุตสาหกรรม นโยบายสนับสนุนจากภาครัฐจึงมีความคล้ายคลึงกัน 

โดยปกติแล้วเมื่อบริษัทมีแผนจะไปลงทุนต่างประเทศ จำเป็นต้องมีความเข้าใจเบื้องต้นว่า อุตสาหกรรมไหนที่กำลังโดดเด่นในประเทศนั้น รวมถึงธุรกิจอะไรของมาเลเซียที่ได้รับการสนับสนุนให้ลงทุนได้ง่ายขึ้น 

ภาคอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจมาเลเซีย มีคล้ายคลึงกับไทยเป็นส่วนใหญ่ เช่น ปาล์มน้ำมัน ยางพารา รถยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้นบริษัทใน ‘ตลาดหุ้นมาเลเซีย’ จึงมีความคล้ายคลึงกับตลาดหุ้นไทย

นอกจากนี้พฤติกรรมผู้บริโภคชาวมาเลเซียมีความคล้ายคลึงกับคนไทย แต่คนมาเลเซียมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวมากกว่า และยังมีค่าครองชีพที่ไม่สูงมาก ทำให้ผู้คนมีกำลังซื้อสูง และสามารถช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างรวดเร็วและแข็งแกร่ง  

เหตุผลที่ 3 – แพลตฟอร์ม Jitta วิเคราะห์หุ้นทำผลตอบแทนชนะดัชนีตลาด

ผลตอบแทนย้อนหลังจากการคำนวณจากการลงทุนตาม Jitta Ranking สามารถทำผลตอบแทนชนะดัชนี FTSE Bursa Malaysia KLCI ซึ่งเป็นดัชนีตลาดหุ้นที่ประกอบด้วย 30 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในมาเลเซีย จากการทำ Back Test การคัดเลือกหุ้นตาม Jitta Ranking ในรูปแบบ Top 10 Top 20 และ Top 30 สามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปี รวมไปถึงผลตอบแทนรวมชนะดัชนีตลาดได้

หากนักลงทุนเลือกลงหุ้นรายตัวตาม Jitta Ranking ตั้งแต่ปี 2552-2563 จะได้รับผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีและผลตอบแทนรวมดังนี้

ผลตอบแทน Jitta Ranking ตลาดหุ้นมาเลเซียในช่วง 12 ปี (2552-2563)

ผลตอบแทนTop 10Top 20Top 30FTSE Malaysia KLCI
เฉลี่ยต่อปี+15.70%+15.32%+18.30%+5.08%
รวม 12 ปี+475.64%+453.05%+651.60%+81.20%
ที่มา: Back Test จากเว็บไซต์ Jitta.com

เราจะพาไปทำความรู้จักตัวอย่าง 5 บริษัทที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของ Jitta Ranking ตลาดหุ้นมาเลเซีย ณ 31 สิงหาคม 2564 โดย 5 บริษัทนี้ อยู่ใน Jitta Ranking Top 30 ที่มี Jitta Score มากกว่า 5 และราคาต่ำว่า Jitta Line หรือเป็น ‘หุ้นราคาเหมาะสม’ มาดูกันว่า แต่ละบริษัททำธุรกิจเกี่ยวกับอะไรบ้าง และมีงบการเงินแข็งแกร็งแค่ไหน

Kossan Rubber Industries

ผู้ผลิตถุงมือยางชั้นนำของมาเลเซีย Kossan ส่งออกผลิตภัณฑ์ไปแล้วกว่า 130 ประเทศทั่วโลก บริษัท Kossan ทำรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในปี 2563 ที่ผ่านมา Kossan มีรายได้เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด เนื่องจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 ทำให้ถุงมือยางเป็นที่ต้องการมากขึ้นทั่วโลก

  • รายได้ 3,638 ล้านริงกิต (+64.10%)
  • กำไรขั้นต้น 2,158 ล้านริงกิต (+142.69%)

Samchem Holdings

ผู้จัดจำหน่ายเคมีภัณฑ์ในประเทศมาเลเซียตั้งแต่ปี 2532 บริษัท Samchem ได้ขยายธุรกิจออกไปทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และกำลังเดินหน้าขยายธุรกิจออกไปในภูมิภาคอื่นด้วย Samchem มีกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นทุกปี และเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่น่าจับตามอง

  • รายได้ 1,053 ล้านริงกิต (-0.46%)
  • กำไรขั้นต้น 134.3 ล้านริงกิต (+34.11%)

Scientex

ผู้ผลิตฟิล์มยืดชั้นนำระดับโลก ที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ของบริษัทมาอย่างต่อเนื่อง Scientex ยังทำบรรจุภัณฑ์พลาสติกและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อีกด้วย โดยที่บริษัท Scientex มีวิสัยทัศน์ว่าจะ ‘สร้างบ้านคุณภาพดี ในราคาที่เข้าถึงได้’ ให้กับชุมชนชาวมาเลเซีย บริษัท Scientex สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นทุกปี และเป็นบริษัทที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งมาอย่างยาวนาน

  • รายได้ 3,519 ล้านริงกิต (+8.35%)
  • กำไรขั้นต้น 804.9 ล้านริงกิต (+17.69%)

Perak Transit

บริษัทขนส่งสาธารณะของมาเลเซีย และยังทำธุรกิจเกี่ยวกับสื่อโฆษณา รวมไปถึงธุรกิจน้ำมันด้วย บริษัท Perak Transit ได้สร้างปั๊มน้ำมันหลายแห่งในมาเลเซีย และมีแผนการจะขยายธุรกิจขนส่งสาธารณะ ให้เป็นบริษัทขนส่งสาธารณะหลักของประเทศอีกด้วย

  • รายได้ 119.4 ล้านริงกิต (-4.09%)
  • กำไรขั้นต้น 87.2 ล้านริงกิต (+9.79%)

Jaycorp

บริษัทโฮลดิงที่ผลิตและขายเฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารา บรรจุภัณฑ์ ธุรกิจแปรรูปไม้ยางพารา และวัสดุก่อสร้าง บริษัท Jaycorp มีรายได้แข็งแกร่ง และมีโครงสร้างบริษัทที่ชัดเจน โดย Jaycorp มีวิสัยทัศน์ว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในทุกธุรกิจที่บริษัทดำเนินการอยู่

  • รายได้ 309.3 ล้านริงกิต (-3.91%)
  • กำไรขั้นต้น 60.8 ล้านริงกิต (+60.8%)

นี่คือ ตัวอย่าง 5 บริษัทที่ติดอันดับ Jitta Ranking Top 30 ‘ตลาดหุ้นมาเลเซีย’ อย่างไรก็ตาม Jitta Ranking จะอัปเดตทุกวัน เพราะราคาหุ้นเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา รวมทั้ง AI จะวิเคราะห์ใหม่เวลาที่แต่ละบริษัทส่งงบการเงินทุกไตรมาส ดังนั้นอันดับของหุ้นใน Jitta Ranking เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

ไม่ว่าคุณจะเลือกศึกษาหรือลงทุนตลาดหุ้นในประเทศไหนๆ ก็ตาม มักจะมีหุ้นพื้นฐานดี ที่ราคายังต่ำกว่ามูลค่าธุรกิจที่แท้จริง และมีคุณภาพกิจการดีให้คุณค้นพบเสมอ ซึ่งแพลตฟอร์ม Jitta จะช่วยอำนวยความสะดวก ให้คุณศึกษาเลือกหุ้นพื้นฐานดีราคาเหมาะสมมาลงทุน ตามหลักการของกูรูระดับโลก Warren Buffett ที่บอกว่า ‘Buy a Wonderful Company at a Fair Price’ หรือ ‘ลงทุนในบริษัทที่ดี ในราคาที่เหมาะสม’

ถ้าคุณต้องการศึกษาหุ้นพื้นฐานดี ราคาเหมาะสม ของ ‘ตลาดหุ้นมาเลเซีย’ ที่แพลตฟอร์ม Jitta วิเคราะห์มากกว่า 880 บริษัท คุณสามารถเข้าไปดูอันดับหุ้นใน Jitta Ranking และคลิกเลือกดูงบการเงินรายบริษัท ได้ที่ https://library.jitta.com/th/ranking?market=MY 


อ้างอิง

  1. Malaysia emerges from recession with 16.1% GDP growth https://www.laprensalatina.com/malaysia-emerges-from-recession-with-16-1-gdp-growth/
  2. Tok Pa: Malaysia expects strong economic recovery by year’s end despite 4.5% growth projection https://www.thestar.com.my/news/nation/2021/06/23/tok-pa-malaysia-expects-strong-economic-recovery-by-year039s-end-despite-45-growth-projection
  3. Malaysia’s GDP shrinks 5.6% in 2020, worst performance since 1998 https://www.straitstimes.com/business/economy/malaysias-economy-shrinks-faster-than-expected-in-q4-on-tighter-covid-19-curbs 
  4. Mustapa: OECD expects economy to expand 4.3% this year, 6.1% next year https://www.thestar.com.my/business/business-news/2021/08/12/mustapa-oecd-expects-economy-to-expand-43-this-year-61-next-year
  5. เงินเดือนเฉลี่ยของแต่ละประเทศและค่าครองชีพ https://www.admissionpremium.com/entrepreneur/news/4914