อีกไม่กี่วันปี 2564 ก็กำลังจะผ่านพ้นไป พร้อมเข้าสู่ปี 2565 ที่โรคระบาดยังอยู่บนโลกใบนี้
ตลอดทั้งปี 2564 เป็นอีกปีที่ตลาดหุ้นทั่วโลกให้ผลตอบแทนดีเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ จากภาพรวมของสถานการณ์ Covid-19 ที่กำลังมีทางออกมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นอัตราการฉีดวัคซีนที่เพิ่มสูงขึ้น การแข่งขันวิจัยและการพัฒนายารักษาและวัคซีนป้องกัน ทำให้เศรษฐกิจโดยรวมของหลายๆ ประเทศเริ่มฟื้นตัว รายได้และกำไรของบริษัทต่างๆ กลับมาเติบโตจากฐานที่ต่ำของปี 2563
ส่งผลให้นักลงทุนทั่วโลกมีทัศนคติที่ดีขึ้นต่อตลาดหุ้น เม็ดเงินลงทุนไหลกลับเข้ามาในตลาดหุ้นอีกครั้ง แม้จะยังมีความผันผวนอยู่บ้าง แต่นักลงทุนมีประสบการณ์ มีการเรียนรู้ และรับมือได้มากขึ้น ทำให้ตลาดหุ้นไม่ได้ผันผวนหนักมากเท่าตอนที่ทั่วโลกเผชิญการระบาดครั้งแรก
แต่ยังมีสถานการณ์แวดล้อมต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ตามวัฏจักรเศรษฐกิจฟื้นตัว คือ อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก ส่งผลให้ธนาคารกลางแต่ละประเทศ ใช้นโยบายการเงินแบบตึงตัว (Restrictive Monetary Policy) เช่น ลดวงเงินเข้าซื้อพันธบัตร และขึ้นดอกเบี้ยในปี 2565 คาดว่า ปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลให้ตลาดการเงินการลงทุนมีความผันผวนระยะสั้นๆ ได้
ที่สำคัญ คือ โรค Covid-19 ยังอยู่บนโลกใบนี้ พร้อมกับเชื้อไวรัสกลายพันธุ์อีกหลายๆ สายพันธุ์อย่างเดลตาและโอไมครอน ทุกครั้งที่มีการประกาศสายพันธุ์ใหม่ๆ ตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวนไปตามๆ กัน ซึ่งเป็นประเด็นที่ท้าทายนักลงทุนทั่วโลก
ในปี 2564 ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกโดยรวมปรับเพิ่มขึ้น ยกเว้นจีน แม้ว่า เศรษฐกิจและงบการเงินบริษัทจะดีขึ้น แต่ดัชนีตลาดหุ้นปรับลดลง เนื่องจากรัฐบาลจีนเข้ามาควบคุมและตรวจสอบในหลายๆ อุตสาหกรรมที่ประเมินว่า จะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคและเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มเทคโนโลยี และอสังหาริมทรัพย์ ที่ทำให้ตลาดหุ้นจีน รวมไปถึงฮ่องกง ขานรับกับข่าวเชิงลบที่มีตลอดทั้งปี
แพลตฟอร์ม Jitta พัฒนามาจากหลักการลงทุนในหุ้นคุณค่า (Value Stock) หรือหลักการลงทุนแบบเน้นคุณค่า (VI – Value Investing) เลือก ‘หุ้นที่ดี ในราคาที่เหมาะสม’ ผ่านการพัฒนา AI และอัลกอริทึมมาสแกนงบการเงินย้อนหลัง 10 ปี วิเคราะห์และคำนวณออกมาเป็นอันดับหุ้นดีใน Jitta Ranking
สำหรับปี 2564 อันดับหุ้นใน Jitta Ranking Top 30 ยังทำผลตอบแทนได้ดีและชนะดัชนีตลาดหุ้น โดยทีมงาน Jitta รวบรวมออกมา 4 ประเทศจากแพลตฟอร์มที่ครอบคลุม 19 ประเทศ
จะเห็นได้ว่า ผลตอบแทนที่เกิดขึ้นในปี 2564 จากการใช้แพลตฟอร์มวิเคราะห์หุ้น Jitta วิเคราะห์และเลือกหุ้นดี ราคาเหมาะสม สามารถเอาชนะดัชนีตลาดหุ้นได้ค่อนข้างมาก และเป็นอีกบทพิสูจน์ให้คุณอย่างชัดเจนว่า หลักการลงทุนแบบเน้นคุณค่า (VI) สามารถสร้างผลตอบแทนให้เติบโตขึ้นได้ ท่ามกลางสถานการณ์แวดล้อมต่างๆ ที่กดดันตลาดหุ้น และมีโอกาสเกิดขึ้นตลอดเวลา
อัลกอริทึมใหม่ โฟกัสงบการเงินปัจจุบัน
แม้ว่า อัลกอริทึมปัจจุบันในแพลตฟอร์มวิเคราะห์หุ้น Jitta จะสามารถทำผลตอบแทนทบต้นระยะยาวได้ดีมากๆ อยู่แล้ว แต่ทีมงาน Jitta ก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและปรับปรุงอัลกอริทึมให้ดีและแม่นยำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คุณสามารถใช้ประโยชน์แพลตฟอร์มวิเคราะห์หุ้นได้อย่างมั่นใจ
หัวใจสำคัญในการวิเคราะห์หุ้นที่น่าลงทุนของ Jitta คือ มีคุณภาพกิจการที่ดี อยู่ในราคาที่เหมาะสม ตามหลักการลงทุนแบบเน้นคุณค่า หากจัดพอร์ตหุ้นตามอันดับใน Jitta Ranking ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า สามารถสร้างผลตอบแทนทบต้นเอาชนะดัชนีตลาดหุ้นในระยะยาวได้ ดังนั้นมี 3 อัลกอริทึมที่ Jitta ให้ความสำคัญ คือ
- อัลกอริทึมในการคำนวณ Jitta Score
- อัลกอริทึมในการคำนวณ Jitta Line
- อัลกอริทึมในการจัดอันดับหุ้นที่น่าลงทุน Jitta Ranking
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราได้พัฒนาและปรับปรุงวิธีการคำนวณ Jitta Score (คุณภาพกิจการที่ดี) และ Jitta Line (ราคาหุ้นที่เหมาะสม) ให้มีความแม่นยำในการวิเคราะห์หุ้นรายตัวมากยิ่งขึ้น โดยคุณสามารถอ่านอัปเดตอัลกอริทึมสำหรับปี 2564 เพิ่มเติมได้
เพื่อต้อนรับปี 2565 ที่กำลังจะมาถึง ทีมงาน Jitta มุ่งเน้นไปที่การวิจัย ค้นคว้า และพัฒนาส่วนของอันดับหุ้น Jitta Ranking โดยเฉพาะ เพื่อให้การจัดอันดับของอัลกอริทึม สามารถคัดกรองหุ้นที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนดีขึ้นกว่าเดิม และมีความเสี่ยงที่ลดลง โดยมีหลักการจัดอันดับหุ้นใน Jitta Ranking ขึ้นอยู่กับ 3 องค์ประกอบหลัก คือ
- คุณภาพกิจการที่ดี (Jitta Score)
- ราคาหุ้นที่เหมาะสม (Jitta Line) เมื่อเทียบกับมูลค่าปัจจุบัน
- ปัจจัยเติบโต (Growth Factor) คำนวณจากผลการดำเนินงานล่าสุด
ทีมงาน Jitta ได้เห็นถึงความสำคัญของ Growth Factor มากขึ้น เนื่องจากธุรกิจต่างๆ เปลี่ยนแปลงและเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงต้องการให้ AI โฟกัสที่ความสมดุลของ คุณค่า (Value) และ การเติบโต (Growth) มากขึ้นกว่าเดิม
Warren Buffett กล่าวไว้ว่า ‘การเติบโต (Growth) เป็นส่วนหนึ่งของคุณค่า (Value)’ ทีมงานจึงเพิ่มน้ำหนักให้กับตัวเลขในปัจจุบัน ก่อนที่จะนำมาจัดอันดับ Jitta Ranking ประกอบไปด้วย
- การเติบโตของรายได้ 4 ไตรมาสล่าสุด
- การเติบโตของอัตรากำไรใน 4 ไตรมาสล่าสุด
- การเติบโตของกำไรใน 4 ไตรมาสล่าสุด
อัลกอริทึมใหม่ จะให้น้ำหนักการคำนวณการเติบโตของรายได้ อัตรากำไร และกำไร ซึ่งก็คือ การโฟกัสส่วนที่ 3 หุ้นดี ราคาเหมาะสมของการจัดอันดับ Jitta Ranking โดยใช้ผลการดำเนินงานล่าสุดของบริษัทนั่นเอง
แพลตฟอร์ม Jitta จะวิเคราะห์จากรายได้รวมของกิจการ ส่วนกำไรและอัตรากำไร (Margin) จะวิเคราะห์จาก 3 ประเภท คือ กำไรขั้นต้น (Gross Profit) กำไรจากการดำเนินงาน (Operating Profit) และกำไรสุทธิ (Net Profit) โดยคุณสามารถดูรายละเอียดเหล่านี้ใน FactSheet ของหุ้นแต่ละบริษัท
นับเป็นการปรับอัลกอริทึม เพื่อให้อันดับของหุ้นที่น่าลงทุน เป็นกิจการที่รายได้และกำไรเติบโตขึ้นอย่างสม่ำเสมอใน 4 ไตรมาสล่าสุด หรือ 12 เดือนย้อนหลัง (Trailing Twelve Months – TTM) โดยจะโฟกัสที่ปัจจุบันมากขึ้น และลดความผิดพลาดในการเลือกหุ้นที่เคยทำได้ดี แต่งบการเงินกำลังเข้าสู่ในช่วงขาลง
ทีมงาน Jitta ได้ทดสอบอัลกอริทึมใหม่ของในการจัดอันดับหุ้น Jitta Ranking Top 30 กับตลาดหุ้น 23 ประเทศ โดยนำผลตอบแทนของแต่ละช่วงเวลามาเปรียบเทียบกับอัลกอริทึมของตัวเก่า และดัชนีตลาดหุ้น เพื่อพิสูจน์ถึงประสิทธิภาพว่า อัลกอริทึมตัวใหม่จะทำผลตอบแทนได้ดีขึ้นหรือไม่ ซึ่งผลลัพธ์ออกมาดังนี้
จากการทดสอบ Back Test ย้อนหลัง ไม่ว่าจะเป็น 5 ปี 10 ปี และ 15 ปี พบว่า อัลกอริทึมใหม่ที่ถูกจัดอันดับหุ้นใน Jitta Ranking จะช่วยเพิ่มผลตอบแทนให้กับคุณมากขึ้น ซึ่งเป็นผลดีกับคุณ ที่สำหรับสนในลงทุนระยะยาว เพราะจะทำให้จัดพอร์ตตามอันดับหุ้นใน Jitta Ranking ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
การปรับอัลกอริทึมใหม่ สำหรับปี 2565 ทีมงาน Jitta ก็ได้ทดสอบกับตลาดหุ้นที่ให้บริการอยู่ 19 ประเทศ และเพิ่มตลาดหุ้นใหม่ที่จะเปิดให้บริการในปี 2565 อีก 4 ประเทศ ได้แก่ อิตาลี เนเธอร์แลนด์ บราซิล และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมเป็น 23 ประเทศ
ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะเรามีข้อมูลตลาดหุ้นจำนวนมากให้ทดสอบ ช่วยให้ลดอคติ (Bias) จาก AI และอัลกอริทึมที่พัฒนาขึ้นมา รวมไปถึงลดปัญหา Overfitting จากชุดข้อมูลและตัวแปร (Parameter) ใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้าไป ถ้าอัลกอริทึมที่พัฒนาขึ้นมา ถูกต้องตามหลักการลงทุนของ Jitta และแม่นยำ ควรจะทำให้ผลตอบแทนโดยรวมดีขึ้นในตลาดหุ้นส่วนใหญ่
Jitta สู่ทศวรรษที่ 2 อย่างแข็งแรง
การปรับอัลกอรึทึมใหม่ จะเกิดขึ้นหลังตลาดหุ้นไทยปิดทำการในวันที่ 30 ธันวาคม 2564 เพื่อให้ข้อมูลทั้งหมดพร้อมใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2565 โดยคุณสามารถเข้าดูการวิเคราะห์ และการจัดอันดับใหม่ เพื่อใช้จัดพอร์ตลงทุนได้เมื่อขึ้นปี 2565 เป็นต้นไป
สำหรับกองทุนส่วนบุคคล Jitta Ranking ภายใต้การบริการจัดการผ่าน Jitta Wealth ตามแผนการลงทุนในแต่ละประเทศและกลุ่มธุรกิจ ระบบจะปรับการเลือกหุ้นตามอัลกอริทึมใหม่นี้ให้เอง เมื่อเข้าสู่ปี 2565 โดยที่คุณไม่ได้ทำอะไรและยังมั่นใจได้ว่า พอร์ตของคุณจะมี ‘หุ้นดีราคาถูก’ อยู่เสมอ พร้อมรับผลตอบแทนที่ดีขึ้น จากอัลกอริทึมใหม่
ทีมงาน Jitta จะทำการอัปเดตข้อมูลผลตอบแทนย้อนหลังและรายชื่อหุ้นต่างๆ ใน https://library.jitta.com/th/ranking เพื่อให้ตรงกับอัลกอริทึมใหม่ในช่วงเวลาเดียวกัน โดยจะมีการเก็บข้อมูลรายชื่อหุ้นและผลตอบแทนเดิมไว้ให้เปรียบเทียบระหว่างอัลกอริทึมเดิมและอัลกอริทึมใหม่เป็นระยะเวลา 1 ปี เพื่อให้คุณได้ทำการศึกษาอย่างละเอียด โดยสามารถเข้าไปดูได้ที่ https://library.jitta.com/th/archive/2021/ranking
นอกจากนี้ Jitta Wealth ได้ต่อยอดพัฒนาอัลกอริทึมใหม่ เช่น Thematic Optimize ที่จะมาช่วยจัดพอร์ตลงทุน ETF (Exchange Traded Fund) ในเมกะเทรนด์ที่น่าลงทุนทั่วโลก เพื่อสร้างความมั่งคั่งของคุณ ให้เติบโตระยะยาวได้ โดยไร้ความกังวลเช่นเดียวกัน
ปี 2565 จะเป็นปีที่ Jitta จะครบรอบ 10 ปี และยังคงมุ่งมั่นในจึงพันธกิจหลัก คือ ‘Help investors create better returns through simple investment methods’ (ช่วยให้นักลงทุนสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่า ผ่านวิธีการลงทุนที่ง่ายที่สุด) เราเติบโตขึ้นมากตลอด 1 ทศวรรษที่ผ่านมา จากสตาร์ตอัป WealthTech สัญชาติไทยรายเล็กๆ สู่แพลตฟอร์มวิเคราะห์หุ้น Jitta ที่มีผู้ใช้งานทั่วโลก และธุรกิจบริหารกองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth กำกับดูแลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.)
Jitta จะยังคงมุ่งมั่นทำในพันธกิจหลักต่อไป ขอบคุณนักลงทุนทั่วโลกที่ให้การสนับสนุนมาโดยตลอด และจะตอบแทนทุกคน ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์กับการลงทุนของทุกคนมากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 2 อย่างแข็งแรง
Jitta (บริษัท จิตตะ ดอท คอม จำกัด) คือ สตาร์ตอัป WealthTech สัญชาติไทย ที่พัฒนาแพลตฟอร์มวิเคราะห์หุ้นกว่า 20 ประเทศทั่วโลก ก่อตั้งในปี 2555
Jitta Wealth (บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด) คือ สตาร์ตอัป WealthTech บริหารกองทุนส่วนบุคคลแห่งแรกของไทย จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในปี 2561 เป็นส่วนหนึ่งของจิตตะ ดอท คอม ต่อมาได้ใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง ในปี 2562 ใบอนุญาตเลขที่ ลค-0105-01 อยู่ภายใต้การกำกับดูแลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.)
อ่านบทความ ‘อัลกอริทึมใหม่’ ของ Jitta ย้อนหลัง
- สำหรับปี 2564 Jitta เวอร์ชันใหม่ แม่นยำมากขึ้น พร้อมลงทุนในยุค New Normal
- สำหรับปี 2563 Jitta พร้อมต้อนรับการลงทุนในทศวรรษใหม่ 2020