by Thatree Homsirikamol
วันที่ 20 ม.ค. 2563 • อัปเดตล่าสุดเมื่อ: วันที่ 24 ม.ค. 2563
ไฮไลท์ 10 อันดับหุ้นพื้นฐานเด่น 2019 พร้อมแนวทางล้วงหาหุ้นแกร่งลงทุนปี 2020 (Part 2)
FINANCIAL STRENGTH | ความมั่นคงทางการเงิน

CURRENT RATIO
10 อันดับบริษัทที่มีอัตราส่วนเงินทุนหมุนเวียนสูงสุด

CURRENT RATIO
10 อันดับบริษัทที่มีอัตราส่วนเงินทุนหมุนเวียนสูงสุด

ถ้าคุณอยากรู้ว่าบริษัทจะล้มง่ายมั้ย ก็ต้องมาวิเคราะห์สภาพคล่องกันครับ การวิเคราะห์สภาพคล่องคือการดูว่า บริษัทมีเงินใช้คล่องมือหรือไม่ มีเงินเข้ามาพอใช้หรือเปล่า ถ้าเงินขาดมือบ่อยๆ แบบนี้มีปัญหาในดำเนินธุรกิจแน่ๆ

อัตราส่วนทุนหมุนเวียน (current ratio) แสดงความสามารถในการจ่ายหนี้ระยะสั้น บริษัทที่มี current ratio มากกว่า 1 แปลว่าสภาพคล่องสูง 

ถ้าน้อยกว่า 1 แสดงว่าธุรกิจมีสินทรัพย์หมุนเวียนเช่น เงินสด ลูกหนี้ทางการค้า สินค้าคงเหลือ ฯลฯ ไม่พอจ่ายหนี้ระยะสั้น ซึ่งเป็นหนี้ที่ต้องจ่ายภายใน 1 ปี แบบนี้ถ้ามีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น บริษัทเสี่ยงเจ๊งได้เลยครับ

ปีที่แล้ว หุ้นที่มี current ratio ดีที่สุด 10 ตัวนั้น อัตราส่วนอยู่ระหว่าง 5-8 ซึ่งค่อนข้างสูง แบบนี้ก็ต้องไปดูเพิ่มเติมครับว่า บริษัทใช้ทรัพย์สินหมุนเวียนให้เกิดประโยชน์สูงสุดหรือเปล่า เพราะบางแห่ง ก็อาจจะถือเงินสดไว้มากเกินความจำเป็น ไม่นำไปลงทุนต่อยอด ทำให้ธุรกิจเสียโอกาสไปได้ครับ

CASH CONVERSION CYCLE
10 อันดับบริษัทที่มีวงจรเงินสดน้อยที่สุด

CASH CONVERSION CYCLE
10 อันดับบริษัทที่มีวงจรเงินสดน้อยที่สุด

วงจรเงินสด คือ ความเร็วในการหมุนเงินของบริษัทครับ ยิ่งขายของไปแล้วได้เงินสดกลับมาเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งลดความเสี่ยงด้านการเงินได้มากขึ้นเท่านั้น ส่วนเวลาจ่ายเงินยิ่งยืดไปได้นานเท่าไรก็ยิ่งดี สรุปว่า รับเงินไว จ่ายเงินช้าครับ

เพราะฉะนั้น cash coversion cycle ยิ่งน้อยยิ่งดี น้อยแบบติดลบเหมือน CPALL เลยก็ได้ เพราะหมายถึงบริษัทเก็บเงินจากลูกหนี้ได้ก่อนของออกนั่นเอง

ที่สำคัญคือ อัตราส่วนนี้ต้องดูเปรียบเทียบกับอดีตของบริษัทเองว่าที่ผ่านมารักษาความเร็วในการหมุนเงินไว้ได้ดีขนาดไหน ถ้าแนวโน้มคงที่หรือลดลงก็จะดีมากครับ แต่ถ้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็อาจจะส่งผลต่อความสามารถในการดำเนินกิจการระยะยาวได้

แล้วก็อย่าลืมเอาไปเปรียบเทียบกับคู่แข่งด้วยนะครับ เพราะถ้าคู่แข่งหมุนเงินได้เร็วกว่า ก็เป็นไปได้ว่าประสิทธิภาพในการทำงานของเค้าดีกว่า อาจจะน่าลงทุนกว่าครับ

JITTA FACTOR: FINANCIAL STRENGTH
10 บริษัทที่คะแนน Jitta Factor: Financial Strength เพิ่มขึ้นสูงสุด

Jitta Factor: Financial Strength คือมาตรวัดความแข็งแกร่งทางการเงินของธุรกิจ โดยดูอัตราส่วนหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็น current ratio หรือ cash conversion cycle รวมถึงหนี้สินระยะสั้น ระยะยาว ฯลฯ เพื่อให้คุณเห็นภาพรวดเร็วว่าสุขภาพของธุรกิจนั้นๆ เป็นอย่างไร จะได้ตัดสินใจลงทุนได้อย่างสบายใจมากขึ้น   

ประเทศไทยเองมีเกือบ 200 บริษัทเลยครับที่ได้คะแนน Financial Strength เฉลี่ยเต็ม 100 ในปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่า แม้ในยามที่ตลาดหุ้นผันผวน สถานการณ์ต่างๆ ไม่แน่นอน ธุรกิจบ้านเราก็ยังรักษาเสถียรภาพทางการเงินเอาไว้ได้ 

ซึ่งก็เป็นไปได้ว่า ความไม่แน่นอนของตลาดทำให้นักลงทุนโหยหาเสถียรภาพกันมากขึ้น จึงหันมาสนใจหุ้นที่ฐานะการเงินมั่นคง จนหุ้นเหล่านี้ทำกำไรกันเป็นแถว อย่าง SPVI กับ AMANAH ที่ราคาเพิ่มขึ้นมากกว่า 100% ในขณะที่ตลาดหุ้นโดยรวมปรับตัวขึ้นไม่ถึง 10% ด้วยซ้ำครับ


อ่านต่อ