บทความ แนวคิด และกลยุทธ์การลงทุน
Jitta Ranking ปี 2564 ผลตอบแทนชนะดัชนีตลาดหุ้น
สวัสดีปีใหม่ 2565 กับปีที่ 3 ของโรคระบาด Covid-19
นั่นหมายความว่า ตลอดปี 2564 วิกฤต Covid-19 ยังไม่หมดไป แต่ไม่ได้แปลว่า เศรษฐกิจและตลาดหุ้นทั่วโลกจะซบเซา เพราะทุกประเทศสามารถปรับตัวรับมือกับการระบาดรอบใหม่และเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ รวมทั้งอัตราการฉีดวัคซีนที่เพิ่มสูงขึ้น
ปี 2564 เรียกได้ว่า เป็นปีแห่งการฟื้นตัว GDP เกือบทุกประเทศพลิกกลับมาเป็นบวก และโตในอัตราที่สูง เนื่องจากเศรษฐกิจปี 2563 ทรุดหนักเกือบทั่งโลก ขณะเดียวกันดัชนีตลาดหุ้นพลิกกลับมาเป็นบวก บางตลาดทำนิวไฮติดๆ กันภายในปีเดียว
สะท้อนภาพว่า ทุกประเทศทั่วโลกผ่านประสบการณ์และบทเรียนจากการระบาดรอบแรก รู้วิธีการรับมือแก้ปัญหา เมื่อมีการระบาดรอบใหม่ๆ ขณะที่ประชาชนสามารถใช้ชีวิตและดูแลตัวเองได้เป็นอย่างดี
ในโลกการลงทุน นักลงทุนทั่วโลกมีทัศนคติที่ดีขึ้นต่อตลาดหุ้น แม้จะมีความผันผวนขึ้นๆ ลงๆ อยู่บ้างตามข่าวสารที่เกิดขึ้นตลอดทั้งปี แต่นักลงทุนก็มีประสบการณ์ พร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆที่ได้ดีขึ้น
สรุปภาพรวมปี 2564 ดีขึ้นแบบลุ่มๆ ดอนๆ และประคับประคองให้กลไกทางเศรษฐกิจและการลงทุนเดินหน้าต่อได้
แพลตฟอร์มวิเคราะห์หุ้น Jitta ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาอัลกอริทึมและออกแบบ AI เพื่อสแกนงบการเงินของบริษัทและวิเคราะห์ ‘หุ้นดี ราคาเหมาะสม’ ให้ได้ดียิ่งขึ้นไปอีก โดยในปี 2564 เราได้เพิ่มตลาดหุ้นในแพลตฟอร์มอีก 6 ประเทศ ได้แก่ เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส รัสเซีย สวีเดน มาเลเซีย อินโดนีเซีย รวมเป็น 19 ประเทศทั่วโลก
เมื่อปลายปีที่แล้ว เราได้ปรับปรุงอัลกอรึทึมเวอร์ชัน 4.0 เพื่อให้การวิเคราะห์หุ้นของแพลตฟอร์ม Jitta เฟ้นหา ‘หุ้นดี ราคาเหมาะสม’ นำมาจัดอันดับใน Jitta Ranking ได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น และสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้นกว่าเดิม โดยโฟกัสที่การวิเคราะห์งบการเงิน 4 ไตรมาสล่าสุด หรือ 12 เดือนย้อนหลัง (Trailing Twelve Months – TTM)
อัลกอริทึมใหม่นี้ ได้เริ่มใช้งานทันทีเมื่อเข้าสู่ปี 2565 ซึ่งคุณจะเห็นได้ว่า อัลกอริทึมล่าสุดสามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยใน Jitta Ranking Top 30 ที่ได้ขึ้นอีกประมาณ 1-2% ในทุกๆ ตลาดหุ้น คุณสามารถอ่านคำอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับอัลกอริทึมใหม่ของ Jitta ได้ที่นี่
ทีมงาน Jitta ยังคงรวบรวมข้อมูลรายชื่อหุ้นและผลตอบแทนย้อนหลังที่ได้จากอัลกอรึทึมเดิม ไว้ให้คุณสามารถย้อนดูได้เป็นระยะเวลา 1 ปี เพื่อให้คุณได้ศึกษาและเปรียบเทียบอย่างละเอียดได้ที่นี่
ผลตอบแทนดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก ปี 2564
แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ของวิกฤต Covid-19 คือ ยารักษาและวัคซีนป้องกัน ในรอบปี 2564 คุณได้ยินข่าวความคืบหน้าในการค้นคว้า วิจัย และพัฒนาในทางการแพทย์อยู่ตลอดเวลา ขณะเดียวกันเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ถือกำเนิดขึ้นเรื่อยๆ รวมแล้ว 5 สายพันธุ์ และมีการแพร่ระบาดใหม่อีกหลายๆ ครั้งเป็นระลอก
จากบทเรียนและประสบการณ์ที่ผ่านมา ทำให้ปี 2564 ของใครหลายๆ คนง่ายขึ้นกว่าปี 2563 เช่นเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก ที่ก้าวเข้าสู่การฟื้นตัว จนภาพรวมของตลาดหุ้นทั่วโลกปี 2564 นั้น จบได้สวยงามกว่าที่คาดการณ์ไว้
ทีมงาน Jitta จะเพิ่มตลาดหุ้นอีก 4 ประเทศในแพลตฟอร์ม Jitta ได้แก่ อิตาลี เนเธอร์แลนด์ บราซิล และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ภายในปี 2565 รวมเป็น 23 ประเทศที่ Jitta ครอบคลุมการวิเคราะห์ ‘หุ้นดี ราคาเหมาะสม’ ดังนั้นผลตอบแทนดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกของปี 2564 เราได้เพิ่มการทดสอบอัลกอริทึม 4 ประเทศใหม่เข้าไปด้วย
คุณจะเห็นว่า ภาพรวมของดัชนีตลาดหุ้น 23 ประเทศ ปี 2564 ให้ผลตอบแทนเป็นบวกส่วนใหญ่ สะท้อนภาพการฟื้นตัวหลัง Covid-19 ที่ชัดเจนมาก ตามเศรษฐกิจขาขึ้นทั่วโลก การคลายล็อกดาวน์ เริ่มมีเม็ดเงินลงทุนไหลกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นทั่วโลก นักลงทุนทั่วโลกมีมุมมองว่า วิกฤตนี้กำลังจะผ่านพ้นไป
- ผลตอบแทนดัชนีตลาดหุ้น 23 ประเทศ ปี 2564 เฉลี่ยอยู่ที่ +18.65%
- มี 19 ตลาดหุ้นที่ผลตอบแทน ปี 2564 เป็นบวก คิดเป็น 82.61% ของตลาดหุ้นบนแพลตฟอร์ม Jitta
- มี 4 ตลาดหุ้นที่ผลตอบแทน ปี 2564 ติดลบ คิดเป็น 17.39% ของตลาดหุ้นบนแพลตฟอร์ม Jitta
- ดัชนีตลาดหุ้นที่สร้างผลตอบแทนสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ เวียดนาม (VNI) +35.73% สวีเดน (OMXS30) +29.07% และฝรั่งเศส (CAC40) +28.85%
- ดัชนีตลาดหุ้นที่สร้างผลตอบแทนต่ำสุด 3 อันดับสุดท้าย ได้แก่ ฮ่องกง (HSI) -14.08% บราซิล (IBOV) -11.93% และจีน (CSI300) -5.20%
จะเห็นได้ว่า ตลาดหุ้นที่ติดลบ เช่น ตลาดหุ้นจีน และฮ่องกง ได้รับแรงกดดันจากการตรวจสอบธุรกิจของรัฐบาลจีน ในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยี รวมไปถึงวิกฤตธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ส่งผลให้ภาพรวมดัชนีตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงผันผวน นักลงทุนหลีกเลี่ยงที่จะลงทุน
ส่วนดัชนีตลาดหุ้นที่ร้อนแรงที่สุดของปี 2564 คือ ตลาดหุ้นเวียดนาม จากปัจจัยพื้นฐานของประเทศที่แข็งแกร่ง จากการย้ายฐานการผลิตของบริษัทระดับโลก ภาคการส่งออกที่เติบโต และภาคการบริโภคที่ขยายตัว ขณะที่ตลาดหุ้นกำลังทะยาน แม้จะประสบกับโรคระบาด Covid-19 ระลอกใหม่ แต่ดัชนี VNI ทำนิวไฮตลอดทั้งปี 2564
ผลตอบแทน Jitta Ranking Top 30 ปี 2564
ในช่วงเวลาที่ตลาดหุ้นทั่วโลกกำลังฟื้นตัวได้เป็นอย่างดี ตามภาวะเศรษฐกิจ สำหรับ AI และอัลกอริทึมของแพลตฟอร์มวิเคราะห์หุ้น Jitta ยังทำงานได้ดีเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์งบการเงินย้อนหลัง 10 ปี ส่องการเติบโตของรายได้ กำไร และกระแสเงินสดของแต่ละบริษัท รวมไปถึงการจัดอันดับ ‘หุ้นดี ราคาเหมาะสม’ ผ่าน Jitta Ranking
ส่วนของ Jitta Ranking ทีมงานได้นำอัลกอริทึม เวอร์ชัน 4.0 มาใช้ในการจัดอันดับหุ้นของปี 2564 เพื่อให้คุณได้เห็นประสิทธิภาพการทำงานของ AI และนี่คือ ผลตอบแทน 30 หุ้นดี จาก 23 ตลาดหุ้น
จุดเด่นชัดที่สุด คือ ผลตอบแทน Jitta Ranking Top 30 ปี 2564 เป็นบวกทุกตลาดหุ้น ไม่เพียงเท่านั้นยังให้ผลตอบแทนสูงมากกว่า 100% ในบางประเทศ ที่ตลาดหุ้นฟื้นตัวได้ดีมาก
- ผลตอบแทน Jitta Ranking Top 30 ปี 2564 เฉลี่ยอยู่ที่ +50.73%
- ผลตอบแทน Jitta Ranking Top 30 สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ อินเดีย +228.94% สวีเดน +123.33% และอิตาลี +54.82%
- ผลตอบแทน Jitta Ranking Top 30 ต่ำสุด 3 อันดับสุดท้าย ได้แก่ จีน +12.93% ญี่ปุ่น +11.08% และฮ่องกง +7.91%
ผลตอบแทน Jitta Ranking Top 30 กับดัชนีตลาดหุ้น ปี 2564
คุณจะเห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้น เมื่อนำผลตอบแทน Jitta Ranking Top 30 กับดัชนีตลาดหุ้น ปี 2564 มาเปรียบเทียบกัน
จุดที่น่าสนใจ คือ ผลตอบแทนของ Jitta Ranking Top 30 ปี 2564 ชนะดัชนีตลาดหุ้น 23 ประเทศเป็นส่วนใหญ่
- ผลตอบแทนเฉลี่ย Jitta Ranking Top 30 อยู่ที่ +50.73% ชนะดัชนีตลาดหุ้น 32.08%
- มี 22 ประเทศที่ผลตอบแทนของ Jitta Ranking Top 30 ชนะดัชนีตลาดหุ้น คิดเป็น 95.65% ของตลาดหุ้นบนแพลตฟอร์ม Jitta
- มี 1 ประเทศที่ผลตอบแทนของ Jitta Ranking Top 30 แพ้ดัชนีตลาดหุ้น คิดเป็น 4.35% ของตลาดหุ้นบนแพลตฟอร์ม Jitta
- ผลตอบแทน Jitta Ranking Top 30 ชนะดัชนีตลาดหุ้นสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่
- อินเดีย ชนะดัชนี NIFTY 50 204.82%
- สวีเดน ชนะดัชนี OMXS30 94.86%
- ไทย ชนะดัชนี SET50 42.16%
- ผลตอบแทน Jitta Ranking Top 30 แพ้ดัชนีตลาดหุ้น คือ เนเธอร์แลนด์ แพ้ดัชนี AEX ไปเพียง 1.48%
เมื่อเปรียบเทียบผลตอบแทน ปี 2564 ระหว่าง Jitta Ranking Top 30 และดัชนีตลาดหุ้น คุณจะเห็นว่า ตลาดหุ้นที่ติดลบ อย่างฮ่องกง บราซิล จีน และมาเลเซีย แต่ AI และอัลกอริทึมของแพลตฟอร์มวิเคราะห์หุ้น Jitta สามารถเฟ้นหา ‘หุ้นดี ราคาเหมาะสม’ จากตลาดหุ้นเหล่านี้ สามารถทำผลตอบแทนให้เป็นบวกได้
- ฮ่องกง Jitta Ranking Top 30 ชนะดัชนี HSI 21.99%
- บราซิล Jitta Ranking Top 30 ชนะดัชนี IBOV 29.11%
- จีน Jitta Ranking Top 30 ชนะดัชนี CSI300 18.13%
- มาเลเซีย Jitta Ranking Top 30 ชนะดัชนี KLCI 31.13%
เหตุผลที่ Jitta Ranking Top 30 ใน 4 ตลาดหุ้น ทำผลตอบแทนได้ดีกว่าดัชนีตลาดหุ้นติดลบ เนื่องจากหุ้น 30 บริษัทส่วนใหญ่ที่แพลตฟอร์มของ Jitta วิเคราะห์และคัดสรรมานั้น เป็นหุ้น Undervalued มีราคาถูก ไม่ได้เป็นหุ้นบิ๊กแคปหรือถูกคำนวณในดัชนีตลาดหุ้นนั่นเอง
ดังนั้นไม่ว่าตลาดหุ้นจะเป็นขาลงหรือขาขึ้น แพลตฟอร์มวิเคราะห์หุ้น Jitta ยังสามารถเฟ้นหาบริษัทที่มีงบการเงินแข็งแกร่ง เติบโตอย่างต่อเนื่องจากผลงานในอดีต และโอกาสเติบโตในอนาคตได้อยู่ นี่คือ บทพิสูจน์และผลลัพธ์หลักการลงทุนแบบเน้นคุณค่า (Value Investing)
อย่างไรก็ตาม หากจะวัดผลตอบแทนช่วงเวลา 1 ปีที่ผ่านมาเป็นระยะเวลาที่สั้นมากๆ สำหรับการลงทุนระยะยาว เพราะไม่มีใครคาดการณ์ได้ว่า ในปีถัดๆ ตลาดหุ้นจะเป็นอย่างไร งบการเงินของบริษัทที่คุณภาพดี จะมีการเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่
หากคุณไปดูไส้ในหุ้นใน Jitta Ranking Top 30 ทุกประเทศ จะเห็นว่า มีทั้งกำไรและขาดทุนเช่นเดียวกัน เพียงแต่ผลตอบแทนรวมจากการทำงานของ AI ในแพลตฟอร์ม Jitta ทำงานได้มีประสิทธิภาพ เลือก ‘หุ้นดี ราคาเหมาะสม’ สร้างผลตอบแทนเป็นบวก
เพราะ ถ้าหลักการลงทุนถูกต้อง ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็ตาม ผลตอบแทนทบต้นระยะยาว เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า หลักการลงทุนนั้น…คิดมาถูกทาง
แล้วแพลตฟอร์มวิเคราะห์หุ้น Jitta มีประสิทธิภาพอย่างไร ต่อไปนี้คือผลตอบแทนเฉลี่ยทบต้น Jitta Ranking Top 30 เปรียบเทียบกับผลตอบแทนของดัชนีตลาดหุ้น 5 ปี และ 10 ปี เพื่อหาคำตอบว่า การลงทุนระยะยาวกับ Jitta Ranking Top 30 นั้นเป็นอย่างไร
ผลตอบแทนเฉลี่ยทบต้น 5 ปี Jitta Ranking Top 30 กับดัชนีตลาดหุ้น
หากต้องการผลลัพธ์จากการลงทุนระยะยาว ทีมงาน Jitta ได้จำลองผลตอบแทนย้อนหลัง (Back Test) ที่ละเอียดมากยิ่งขึ้น โดยใช้ระยะเวลา 5 ปี ในการพิสูจน์การทำงานของ AI และอัลกอริทึม เวอร์ชัน 4.0 ของ Jitta
คุณจะเห็นได้ว่า ผลตอบแทนเฉลี่ยทบต้น 5 ปีของ Jitta Ranking Top 30 สามารถชนะดัชนีตลาดหุ้นได้ใน 21 จาก 23 ประเทศ มีดังนี้
- ผลตอบแทนเฉลี่ย Jitta Ranking Top 30 อยู่ที่ +19.79% ชนะดัชนีตลาดหุ้น 11.83%
- มี 21 ประเทศที่ผลตอบแทนของ Jitta Ranking Top 30 ชนะดัชนีตลาดหุ้น คิดเป็น 91.30% ของตลาดหุ้นบนแพลตฟอร์ม Jitta
- มี 2 ประเทศที่ผลตอบแทนของ Jitta Ranking Top 30 แพ้ดัชนีตลาดหุ้น คิดเป็น 8.70% ของตลาดหุ้นบนแพลตฟอร์ม Jitta
- ผลตอบแทน Jitta Ranking Top 30 ชนะดัชนีตลาดหุ้นสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่
- สิงคโปร์ ชนะดัชนี STI 32.91%
- มาเลเซีย ชนะดัชนี KLCI 17.86%
- สหราชอาณาจักร ชนะดัชนี FTSE100 17.58%
- ผลตอบแทน Jitta Ranking Top 30 แพ้ดัชนีตลาดหุ้น 2 ประเทศ ได้แก่
- สหรัฐอเมริกา แพ้ดัชนี S&P500 1.99%
- เวียดนาม แพ้ดัชนี VNI 1.12%
- ผลตอบแทน Jitta Ranking Top 30 ที่สูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่
- สิงคโปร์ สร้างผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ย +34.54%
- อินเดีย สร้างผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ย +33.00%
- บราซิล สร้างผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ย +27.03%
- ผลตอบแทน Jitta Ranking Top 30 ที่ต่ำที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่
- สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สร้างผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ย +4.29%
- ไทย สร้างผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ย +12.63%
- เกาหลีใต้ สร้างผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ย +12.92%
ส่วนเหตุผลที่ผลตอบแทนของ Jitta Ranking Top 30 จากสหรัฐอเมริกาและเวียดนามในช่วงปี 2560-2564 แพ้ดัชนีตลาดหุ้น มีดังนี้
- ดัชนี S&P500 สหรัฐอเมริกาเป็นแหล่งรวมหุ้นระดับบิ๊กแคปและเมกะแคป ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มูลค่าหุ้น 500 บริษัทแรกมีการเติบโตสูงมาก โดยเฉพาะราคาหุ้นเทคโนโลยี อย่าง Apple Microsoft หรือ Google ที่มีมาร์เก็ตแคปหลักล้านล้านดอลลาร์สหรัฐไปแล้ว
- ดัชนี VNI เวียดนามเป็นแหล่งรวมหุ้นระดับบิ๊กแคปเช่นเดียวกัน ในช่วงที่หลายปีผ่านมา ตลาดหุ้นเวียดนามเติบโตร้อนแรงมาก ปี 2564 ทุบสถิตินิวไฮถึง 4 ครั้ง เม็ดเงินที่ไหลเข้าลงทุน ล้วนอยู่ในหุ้นบิ๊กแคปของเวียดนาม
แต่หลักการของแพลตฟอร์ม Jitta คือ วิเคราะห์และเฟ้นหา ‘หุ้นดี ราคาเหมาะสม’ ดังนั้นเป้าหมายของ AI และอัลกอริทึม คือ หุ้นที่คุณภาพกิจการดี งบการเงินแข็งแกร่ง และมีราคาไม่แพงนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนเฉลี่ยทบต้น 5 ปี ยังเรียกได้ว่า เป็นการลงทุนระยะกลาง แม้ว่าการทำงานของ AI และอัลกอริทึมของแพลตฟอร์ม Jitta จะเอาชนะดัชนีตลาดหุ้นได้เป็นส่วนใหญ่ แต่เป้าหมายการลงทุนแบบ VI คือ ผลตอบแทนเฉลี่ยทบต้นที่ชนะดัชนีตลาดหุ้นได้ในระยะยาว
ผลตอบแทนเฉลี่ยทบต้น 10 ปี Jitta Ranking Top 30 กับดัชนีตลาดหุ้น
แพลตฟอร์มวิเคราะห์หุ้น Jitta มีจุดมุ่งหมายในการพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อช่วยให้คุณสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนระยะยาวให้ดียิ่งขึ้น ด้วยวิธีการลงทุนที่ง่ายที่สุด หากวัดกันที่ระยะเวลา 10 ปี เป็นช่วงที่สำคัญมาก สำหรับการพิสูจน์ประสิทธิภาพของ AI และอัลกอริทึมว่า สามารถวิเคราะห์และคัดกรอง ‘หุ้นดี ราคาเหมาะสม’ ให้กับคุณได้จริง
จากผลตอบแทนเฉลี่ยทบต้น 10 ปี มาจากการทำ Back Test พบว่า Jitta Ranking Top 30 สร้างผลตอบแทนชนะดัชนีตลาดได้ทั้งหมด 23 ประเทศ โดยจุดที่น่าสนใจของ Jitta Ranking Top 30 ในช่วง 2555-2564 มีดังนี้
- ผลตอบแทนเฉลี่ย Jitta Ranking Top 30 อยู่ที่ +21.23% ชนะดัชนีตลาดหุ้น 14.54%
- การลงทุนใน Jitta Ranking Top 30 สามารถสร้างผลตอบแทนชนะดัชนีตลาดหุ้นทั้งหมด คิดเป็น 100% ของตลาดหุ้นบนแพลตฟอร์ม Jitta
- ผลตอบแทน Jitta Ranking Top 30 ชนะดัชนีตลาดหุ้นสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่
- มาเลเซีย ชนะดัชนี KLCI 25.68%
- สิงคโปร์ ชนะดัชนี STI 25.19%
- สหราชอาณาจักร ชนะดัชนี FTSE100 19.47%
- ผลตอบแทน Jitta Ranking Top 30 ที่สูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่
- อินเดีย สร้างผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ย +30.47%
- สิงคโปร์ สร้างผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ย +26.86%
- สวีเดน สร้างผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ย +25.61%
- ผลตอบแทน Jitta Ranking Top 30 ที่ต่ำที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่
- สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สร้างผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ย +11.09%
- บราซิล สร้างผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ย +13.14%
- ไต้หวัน สร้างผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ย +13.61%
เมื่อมองในระยะ 10 ปี ผลตอบแทนเฉลี่ยทบต้น Jitta Ranking Top 30 สามารถเอาชนะตลาดได้ทุกตลาดอย่างขาดลอย มีเพียงสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และสหรัฐอเมริกา ที่ผลตอบแทนชนะดัชนีตลาดหุ้นได้เพียง 2.12% และ 1.78% ตามลำดับ
จะเห็นได้ว่า หลักการลงทุน ‘หุ้นดี ราคาเหมาะสม’ ของแพลตฟอร์ม Jitta สู่การจัดอันดับเป็น Ranking Top 30 นั้น พิสูจน์มาแล้วว่า ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยทบต้นที่ดีในระยะยาวได้จริงๆ
ผลตอบแทนเฉลี่ยทบต้น 13 ปี Jitta Ranking Top 30 กับดัชนีตลาดหุ้น
ทีมงาน Jitta ทำ Back Test ผลตอบแทน Jitta Ranking Top 30 มาตั้งแต่ปี 2552 นับจุดเริ่มต้นของเรา จนถึงปี 2564 นับรวมเวลาได้เป็น 13 ปีแล้ว นี่เป็นอีกผลลัพธ์จากการทำงานของ AI และอัลกอริทึม เพื่อเลือก ‘หุ้นดี ราคาเหมาะสม’
คุณจะเห็นว่า ตลอด 13 ปีที่ผ่านมา Jitta Ranking Top 30 สามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยชนะดัชนีตลาดหุ้นทั้งหมด 23 ประเทศ โดยจุดที่น่าสนใจ มีดังนี้
- ผลตอบแทนเฉลี่ยทบต้น Jitta Ranking Top 30 อยู่ที่ +22.35% ชนะดัชนีตลาดหุ้น 13.05%
- ผลตอบแทนเฉลี่ยทบต้น Jitta Ranking Top 30 สามารถสร้างผลตอบแทนชนะดัชนีตลาดหุ้นทั้งหมด คิดเป็น 100% ของตลาดหุ้นบนแพลตฟอร์ม Jitta
- ผลตอบแทน Jitta Ranking Top 30 ชนะดัชนีตลาดหุ้นสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่
- สิงคโปร์ ชนะดัชนี STI 22.51%
- ฮ่องกง ชนะดัชนี HSI 21.46%
- สหราชอาณาจักร ชนะดัชนี FTSE 100 21.46%
- ผลตอบแทน Jitta Ranking Top 30 ที่สูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่
- อินโดนีเซีย สร้างผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ย +32.80%
- อินเดีย สร้างผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ย +30.68%
- สิงคโปร์ สร้างผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ย +27.01%
- ผลตอบแทน Jitta Ranking Top 30 ที่ต่ำที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่
- สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สร้างผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ย +8.72%
- รัสเซีย สร้างผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ย +12.88%
- เนเธอร์แลนด์ สร้างผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ย +14.45%
หากพิจารณาผลตอบแทนเฉลี่ยทบต้น ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลา 5 ปี 10 ปี และ 13 ปี จะพบว่า ยิ่งลงทุนระยะยาวตาม Jitta Ranking Top 30 คุณจะได้รับผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีตลาดมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญไปกว่านั้น Jitta Ranking Top 30 สร้างผลตอบแทนเป็นบวกได้ทุกตลาดหุ้น
ผลลัพธ์ที่คุณเห็นเหล่านี้ จะสร้างความเชื่อมั่นในประสิทธิภาพของ AI และอัลกอริทึมของ Jitta ว่า เมื่อวิเคราะห์และคัดสรร ‘หุ้นดี ราคาเหมาะสม’ นำมาจัดอันดับเป็น Jitta Ranking Top 30 และลงทุนตามอันดับหุ้นเหล่านี้เป็นระยะเวลานานพอ โอกาสที่พอร์ตลงทุนของคุณจะทำผลตอบแทนได้ดีและชนะดัชนีตลาดหุ้นย่อมมีมากขึ้น
ยิ่งลงทุนระยะยาว 10 ปีขึ้นไปตาม Jitta Ranking Top 30 ความเสี่ยงต่อการขาดทุนยิ่งต่ำลง จน แทบเป็นศูนย์ อย่างที่คุณได้เห็นจากผลตอบแทนเฉลี่ยทบต้น 5 ปี 10 ปี และ 13 ปี เมื่อเทียบกับดัชนีตลาดหุ้น สามารถเอาชนะได้ตั้งแต่ 90-100%
การเปรียบเทียบผลตอบแทนจากพอร์ตลงทุนหุ้น คุณจะพบว่า การลงทุนมีความเสี่ยงอยู่ตลอดเวลา ไม่มีหลักการลงทุนไหนที่สามารถเอาชนะตลาดได้ทุกปี เพราะตลาดหุ้นประกอบด้วยปัจจัยแวดล้อมมากมาย ทั้งที่สามารถคาดเดาได้และคาดเดาไม่ได้ ยังไม่นับภาวะอารมณ์ของนักลงทุนที่ทำให้ดัชนีผันผวนในระยะสั้นๆ ด้วย
ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา จนเข้าสู่ปีที่ 3 ของวิกฤต Covid-19 เป็นบทเรียนที่สำคัญของนักลงทุนทั่วโลก คุณจะพบเจอธรรมชาติของตลาดหุ้น ที่มีความผันผวนขึ้นๆ ลงๆ ตามสถานการณ์ต่างๆ แต่แพลตฟอร์มวิเคราะห์หุ้น Jitta ที่พัฒนาอัลกอริทึมลงลึกในคุณภาพของธุรกิจและงบการเงิน คัดสรรหุ้นที่จะมาเป็นสินทรัพย์คุณภาพดี…ที่น่าลงทุนที่สุด
เมื่อสินทรัพย์คุณภาพดี มาพร้อมกับหลักการลงทุนระยะยาว คุณจะเห็นว่า ผลตอบแทนเฉลี่ยทบต้นแทบไม่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนระยะสั้น หรือจากอคติและอารมณ์ของนักลงทุนเลย สุดท้ายมูลค่ากิจการและราคาหุ้นระยะยาว จะสะท้อนพื้นฐานของหุ้นที่คุณลงนั่นเอง
สำหรับ Jitta ในฐานะสตาร์ตอัป WealthTech กับความมุ่งมั่นในหลักการลงทุนแบบ VI มาตลอด 10 ปี เรายังคงมุ่งมั่นในพันธกิจหลัก คือ ‘Help investors create better returns through simple investment methods’ (ช่วยให้นักลงทุนสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่า ผ่านวิธีการลงทุนที่ง่ายที่สุด) และนำแนวคิดของ Warren Buffett ที่ยึดมั่นมาตลอด คือ ‘Buy a wonderful company at a fair price’ (ลงทุนในบริษัทที่ดี ในราคาที่เหมาะสม) มาพัฒนา AI และอัลกอริทึมของ Jitta ในดียิ่งขึ้นไปอีก