by Jitta
วันที่ 6 พ.ย. 2563 • อัปเดตล่าสุดเมื่อ: วันที่ 12 ม.ค. 2566
    ตระเวนหาโอกาสลงทุนกับหุ้นจีน (ตอนที่ 5)

    ประเทศจีน นอกจาก Alibaba และ JD.com ที่เราคุ้นเคยกันดีแล้วแล้ว ยังมีหุ้นอีคอมเมิร์ซไหนอีกที่น่าสนใจ?

    Pinduoduo (PDD) เป็นหนึ่งในอีมาร์เก็ตเพลส ที่ว่ากันว่า เป็นรอง Alibaba แต่เหนือกว่า JD.com

    ด้วยจุดเด่น คือ ขายสินค้าแบบ ‘ปากต่อปาก’ หรือ ‘เพื่อนชวนเพื่อน’ แล้วได้ส่วนลดพิเศษกว่าซื้อคนเดียว

    รายได้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ก็เติบโตก้าวกระโดด แม้ว่าจะยังขาดทุนอยู่บ้าง เพราะต้นทุนด้านการตลาด

    แต่ผลงานในไตรมาส 2 ปี 2563 ก็ไม่ธรรมดา เพราะจำนวน Active Users เพิ่มขึ้น 41% เป็น 683.2 ล้านคน ส่วนรายได้ช่วงเดียวกัน โต 67% อยู่ที่ 12,193 ล้านหยวน

    แม้ว่า ธุรกิจอีคอมเมิร์ซจีนจะเป็น Red Ocean ที่แข่งขันอย่างดุเดือด แถมยังบลัฟกันด้วยการก็อปปี้โมเดลธุรกิจกันเอง

    แต่ถ้าคุณยังเชื่อมั่นในอนาคตของอีคอมเมิร์ซและอีมาร์เก็ตเพลสในจีน มองว่าธุรกิจเหล่านี้จะเติบโตต่อไปได้อีกเยอะในระยะยาว ก็ไม่จำเป็นต้องเลือกหุ้นรายตัว ระหว่าง Alibaba PDD หรือ JD.com ครับ

    คุณสามารถซื้อหุ้นจีนทั้งตลาดผ่านกองทุน iShares MSCI China ETF (MCHI) หรือเลือกลงทุนเฉพาะธุรกิจอีคอมเมิร์ซผ่าน ProShares Online Retail ETF (ONLN) ได้เลย ทั้งสองต่างลงทุนใน Alibaba PDD และ JD.com

    เพียงแต่ว่า MCHI จะกระจายความเสี่ยงมากกว่า ด้วยจำนวนหุ้นจีนประมาณ 700 ตัว ในขณะที่ ONLN จะโฟกัสที่หุ้นอีคอมเมิร์ซทั่วโลก จำนวน 26 บริษัท รวมถึง Amazon eBay และ Wayfair ด้วย

    หรือคุณจะลงทั้งสองกองเลยก็ได้ครับ เพียงเปิดบัญชีกองทุนส่วนบุคคล #Thematic และเลือกธีม ‘ธุรกิจจีน’ กับ ‘อีคอมเมิร์ซ’ ก็จะได้ลงทุนทั้งหุ้นจีน และหุ้นธุรกิจอีคอมเมิร์ซทั่วโลกในพอร์ตเดียว เริ่มต้นที่ 100,000 บาทเท่านั้น ดูรายละเอียดและเปิดบัญชีได้ที่ https://bit.ly/3mNrVC2

    ทีนี้มาดูกันว่า PDD มีอะไรน่าสนใจบ้าง

    Pinduoduo (PDD) ผู้ท้าชิงบัลลังก์อีคอมเมิร์ซกับ Alibaba

    PDD ก่อตั้งในปี 2015 ในช่วงแรกเป็นเว็บขายสินค้าทั่วๆไป เน้นนำสินค้าอาหารสดมาขายให้กับรายย่อย

    แต่แล้วในไตรมาสที่หนึ่งของปี 2017 ก็ได้เปลี่ยนธุรกิจมาเป็นมาร์เก็ตเพลส ที่เป็นตัวกลางระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขายโดยไม่ต้องบริหารจัดการคลังสินค้าและการจัดส่ง

    ปัจจุบันก้าวขึ้นเป็นอีคอมเมิร์ซมาร์เก็ตเพลสอันดับที่สองของจีนรองจาก Alibaba แต่เหนือกว่า JD.com

    PDD มีความแตกต่างจาก Alibaba เพราะโมเดลธุรกิจเป็น Social Commerce ที่เน้นการขายสินค้าแบบปากต่อปาก

    ถ้าเราจะซื้อสินค้าชนิดใดแล้วสามารถชวนเพื่อนอย่างน้อยหนึ่งคนมาซื้อด้วย ก็จะได้รับส่วนลดเป็นพิเศษ

    เป็นบริการในรูปแบบ Together, More Saving, More Fun คือช๊อปปิ้งแล้วสนุกในราคาที่ถูกกว่าที่อื่น

    ธุรกิจเติบโตเร็วมาก ในไตรมาสที่สองของปี 2020 มี Active Buyers สูงถึง 683.2 ล้านคนเพิ่มขึ้น 41% YoY ตัวเลขใกล้เคียงกับของ Alibaba ที่ 742 ล้านคน

    มียอดการสั่งซื้อรายปีต่อหนึ่งผู้ใช้อยู่ที่ 1,857 หยวน และมี Gross Merchandise Volume หรือปริมาณการซื้อขายบนแพลตฟอร์มอยู่ที่ 1,268 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 79% YoY

    ในขณะที่ Alibaba มี GMV อยู่ที่ 6,600 พันล้านหยวน มากกว่า PDD ถึง 5.2 เท่าตัว

    รายได้ของบริษัทในช่วงสามปีล่าสุด ผมหาข้อมูลใน #Jitta ได้ดังนี้

    • ในปี 2017 มีรายได้ 1,744 ล้านหยวน ขาดทุน 525 ล้านหยวน
    • ในปี 2018 มีรายได้ 13,119 ล้านหยวน ขาดทุน 19,217 ล้านหยวน
    • ในปี 2019 มีรายได้ 30,141 ล้านหยวน ขาดทุน 6,967 ล้านหยวน

    ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2020 มีรายได้ 12,193 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 67% YoY

    แต่ยังขาดทุนอยู่ 899 ล้านหยวน ลดลงจากปีที่แล้วที่ขาดทุน 1,003 ล้านหยวน

    ในแง่ของการแข่งขัน PDD ต้องต่อสู้กับ Alibaba และที่กำลังมาแรงในตอนนี้คือแอป Jingxi ของทาง JD.com ที่เรียกได้ว่าโคลนนิ่งมาทั้งแอปจาก PDD

    ข้อได้เปรียบของ Jingxi คือการที่มีเครือข่ายลอจิสติกส์ที่ดีที่สุดในจีนของ JD.com ช่วงส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็ว

    ทั้งคู่ต่างมีช่องทางในการเข้าถึงผ่านทาง Wechat เพราะ Tencent เป็นนายทุนหนุนหลังอยู่

    ตัวเลขที่น่าสนใจคือกว่า 40% ของลูกค้าใหม่ของ JD.com มาจาก Jingxi และ 70% ในนั้นมาจากเมืองรองในจีนที่เป็นเป้าหมายเดียวกันกับ PDD

    แม้ว่ายอดขายจะเติบโตขึ้นมาก แต่บริษัทก็มีค่าใช้จ่ายการขายและการตลาดสูงมากถึง 73% ของยอดขาย

    มาดูที่ความถูกแพงของหุ้น เนื่องจากบริษัทยังไม่มีกำไร ผมเลยใช้อัตราส่วน Price per Sales คำนวณได้อยู่ที่ 19.4 เท่า

    โดยสรุปหุ้นตัวนี้มีโมเดลธุรกิจที่น่าสนใจในการดึงดูดให้คนมาใช้ด้วยการใช้กลยุทธ์การตลาดในการขับเคลื่อน

    อย่างไรก็ตามเนื่องจากกลยุทธ์สามารถลอกเลียนแบบได้ไม่ยาก อย่างที่เราเห็นว่า Jingxi ได้ลอกเลียนแบบโมเดลธุรกิจ แถมยังมีระบบการขนส่งที่เหนือกว่า

    ผมมองด้วยราคาที่ค่อนข้างสูงถ้าดูจาก P/S และความแข็งแกร่งของธุรกิจไม่ได้มากนัก

    นักลงทุนควรจะต้องพิจารณาในการลงทุนดีๆ สำหรับหุ้นตัวนี้ครับ

    อ่าน Blog ที่เกี่ยวข้อง

    ตระเวนหาโอกาสลงทุนกับหุ้นจีน (ตอนที่ 4)

    ตระเวนหาโอกาสลงทุนกับหุ้นจีน ตอนที่ 3

    ตระเวนหาโอกาสลงทุนกับหุ้นจีน (ตอนที่ 2)

    ตระเวนหาโอกาสลงทุนกับหุ้นจีน (ตอนที่ 1)